แพทย์แถลงกรณี “น้องนิว” รอการรักษาจนเสียชีวิต

เพชรบุรี 22 ก.ค.-ทีมแพทย์ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยืนยันกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปล่อยให้เด็กชายวัย 15 ปี รอการรักษาอาการปวดท้องจนเสียชีวิต โดยยืนยันว่าทำเต็มที่แล้ว และอาการที่ผู้ตายป่วยพบเพียง 5 คนใน 1 ล้านคนเท่านั้น


จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook คนหนึ่ง โพสต์กรณีที่มีมีเด็กวัย 15 ปี นั่งรอการวินิจฉัยอาการป่วยของแพทย์ กระทั่งเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษา โดยระบุว่า อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าให้ 1 ชีวิต ต้องเสียไปกับคำว่า “รอ” พร้อมกับบรรยายเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “น้องปวดท้องมาก มากจนต้องส่งตัวฉุกเฉินจาก รพ.ชะอำ ไป รพ.พระจอมเกล้า เพชรบุรีตั้งแต่เช้า พอไปถึงพยาบาลบอกให้ “รอ” ทั้งๆ ที่น้องปวดมากจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ กระทั่งน้องช็อกล้มลงไป ทีมแพทย์และพยายามจึงทำ CPR จนรู้สึกตัว ถึงได้เข้าตรวจและเอ็กซเรย์ หลังจากนั้นน้องก็ทรุดลงอีกครั้ง กระทั่งมีการปั๊มหัวใจ แต่ครั้งนี้น้องไม่กลับมาแล้ว” ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ เข้ามาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทีมแพทย์และพยาบาลว่าเป็นไปอย่างล่าช้า โดยมีการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ ด.ช.ธีธัช เกตุทอง หรือ “น้องนิว” อายุ 15 ปี 


สำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อมูลและลำดับเหตุการณ์เวลาการเสียชีวิตของเด็กชายคนดังกล่าว พบว่าผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาอาการปวดท้องที่โรงพยาบาลชะอำ จังหวัดเพชรบุรีเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนั้นทีมแพทย์เข้าใจว่าอาจเกิดจากอาการ “กระเพาะทะลุ” แต่วินิจฉัยค่อนข้างยาก เพราะผู้ป่วยมีอาการสมาธิสั้น และออทิสติก จึงบอกอาการกับแพทย์ได้ไม่มากนัก มีการรักษาเบื้องต้นแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า อำเภอเมืองเพชรบุรีในช่วงเช้าของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา 


กระทั่งเวลา 13.30 นาที ของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ป่วยได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลพระจอมเกล้า หลังจากนั้นผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง จึงมีการส่งตัวเข้ารับการเอ็กซเรย์ เพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง กระทั่งเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ได้รับฟิล์มเอ็กซเรย์ จึงส่งข้อมูลให้กับแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ แต่ทว่าระหว่างรอผลวินิจฉัย พบว่าผู้ป่วยมีอาการหมดสติ แพทย์จึงเร่งช่วยเหลือด้วยการเจาะเลือดและปฐมพยาบาลเบื้องต้น หลังจากนั้นเวลา 14.45 นาที ผู้ป่วยถูกส่งตัวไปยังห้องฉุกเฉิน แต่พบว่าความดันตก จึงมีการตรวจอย่างละเอียด และเจาะเลือด พร้อมกับให้น้ำเกลือ ก่อนที่จะมีการซีทีสแกน ตรวจคลื่นหัวใจ กระทั่งพบอาการผิดปกติ ระหว่างนั้นผู้ป่วยเริ่มกระสับกระส่าย กระทั่งทีมแพทย์พบว่าผู้ป่วยมีอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” กระทั่งเวลา 16.38 น. พบว่าผู้ป่วยไม่มีชีพจรแล้ว ทีมแพทย์จึงปั๊มหัวใจ พร้อมกับให้เลือด 2 ถุง และเสียชีวิตลงในเวลา 17.15 น. 

กรณีนี้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าเหตุใดและทำไม ทีมแพทย์จึงปล่อยให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักขนาดนี้ต้องรอนาน ซึ่งล่าสุดนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.ธีธัช เกตุทอง โดยยืนยันว่าทีมแพทย์ไม่ได้ละทิ้งผู้ป่วยจนต้องเสียชีวิต เนื่องจากผู้ป่วยได้เดินทางมาในวันทำการ ทีมแพทย์และพยาบาลทุกคนก็อยู่ในหน้าที่ ซึ่งได้ทำการตรวจรักษาตามขั้นตอนไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเด็กมีอาการสมาธิสั้น จึงไม่สามารถบอกอาการแพทย์ได้มากเท่าที่ควร จึงวินิจฉัยอาการป่วยค่อนข้างลำบาก ประกอบกับอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” มักพบในผู้ป่วยสูงอายุและไม่ค่อยเจอในเด็ก กระทั่งทำให้เสียชีวิตเฉียบพลัน สุดที่จะรักษาได้อย่างทันท่วงที  พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้

 

ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นำศพของด.ช.ธีธัช ไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดชะอำคีรี อำเภอชะอำ เป็นระยะเวลา 5 คืน ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคมนี้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะบิดาและมารดาของผู้ตายที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านพี่สาวของ ด.ช.ธีธัช บอกว่าเบื้องต้นครอบครัวยังไม่คิดเอาเรื่องแพทย์และโรงพยาบาล แต่อยากให้มีการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ยอมรับว่าทั้งครอบครัวต่างเสียใจกับการสูญเสีย

สำนักข่าวไทย ติดต่อไปยังนายแพทย์ชัยสิทธิ์ แสงทวีสิน นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้อธิบายอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” โดยระบุว่า เป็นโรคแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับผนังเส้นเลือด ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน ก็จะไม่มีอาการ เพราะอาการของโรคเกี่ยวกับผนังเส้นเลือด จะไม่มีอาการเจ็บปวดแสดงออกมา การจะตรวจพบโดยเอ็กซเรย์ทรวงอกก็อาจเจอได้ ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการไปเรื่อยๆ ผนังเส้นเลือดก็จะโป่งพองมากขึ้นๆ จนแตก และจะมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซีด ช็อก และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โรคนี้มักพบเจอในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 50-70 ปี เป็นเป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคเส้นเลือดแข็ง หรือหลอดเลือดแข็งตัว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือกลุ่มที่สูบบุหรี่ หรือเป็นโรคเบาหวาน ส่งผลให้ผนังเส้นแข็ง จนส่งผลให้เส้นเลือดอ่อนแอลง

อย่างในกรณีที่เกิดในเด็ก 15 ปี ยืนยันว่าร้อย 90 มักไม่ทราบสาเหตุ โดยสาเหตุใหญ่ที่สามารถเกิดได้ คือ “กรรมพันธุ์”  หรือเส้นเลือดในร่างกายอักเสบจะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่นำไปสู่เส้นเลือดโป่งพอง หรือเกิดจากอุบัติเหตุที่นำไปสู่การกระแทกที่รุนแรง จนทำให้พนังเส้นเลือดบอบบางผิดปกติและโป่งพองมา ซึ่งการกระแทกนั้นจะต้องเกิดที่บริเวณกระดูกสันหลัง แต่ยืนยันว่าการเป็น “ออทิสติก” ไม่มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของโรค

โรคนี้เป็นโรคที่พบเจอได้น้อยมาก จากข้อมูลในต่างประเทศในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยประมาณ 5-6 ราย ส่วนตัวที่ทำงานด้านโรคหัวใจมา 30 ปีเจอก่อนหน้ากรณีนี้ในไทยเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น ส่วนหมอที่มีความเชี่ยวชาญที่จะรักษาในโรคนี้ในไทยมีไม่เกิน 10 คน และที่สำคัญต้องเป็นสถานที่ในการรักษาต้องมีอุปกรณ์รักษาที่ทันสมัยมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

ทิศทางการเมืองหลังคดี “ยิ่งลักษณ์” บวกปมฮั้ว สว.

24 พ.ค. – ทิศทางการเมืองไทย ไปทางไหน ? หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้าน ปิดคดีจำนำข้าว ส่วนปมคดีฮั้วเลือก สว. จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พูดคุยกับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชายแดนแม่สาย หวั่นสารพิษท่วม

เชียงราย 24 เม.ย. – เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝน แต่ฝนตกหนักในเมียนมา ทำให้แม่น้ำสายไหลทะลักท่วมชายแดนแม่สาย ที่เชียงราย ชาวบ้านขนของหนีน้ำอลหม่าน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว และยังต้องกังวลกับสารพิษปนเปื้อนมากับน้ำท่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย