แพทย์แถลงกรณี “น้องนิว” รอการรักษาจนเสียชีวิต

เพชรบุรี 22 ก.ค.-ทีมแพทย์ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ยืนยันกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปล่อยให้เด็กชายวัย 15 ปี รอการรักษาอาการปวดท้องจนเสียชีวิต โดยยืนยันว่าทำเต็มที่แล้ว และอาการที่ผู้ตายป่วยพบเพียง 5 คนใน 1 ล้านคนเท่านั้น


จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook คนหนึ่ง โพสต์กรณีที่มีมีเด็กวัย 15 ปี นั่งรอการวินิจฉัยอาการป่วยของแพทย์ กระทั่งเสียชีวิตก่อนได้รับการรักษา โดยระบุว่า อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าให้ 1 ชีวิต ต้องเสียไปกับคำว่า “รอ” พร้อมกับบรรยายเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “น้องปวดท้องมาก มากจนต้องส่งตัวฉุกเฉินจาก รพ.ชะอำ ไป รพ.พระจอมเกล้า เพชรบุรีตั้งแต่เช้า พอไปถึงพยาบาลบอกให้ “รอ” ทั้งๆ ที่น้องปวดมากจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ กระทั่งน้องช็อกล้มลงไป ทีมแพทย์และพยายามจึงทำ CPR จนรู้สึกตัว ถึงได้เข้าตรวจและเอ็กซเรย์ หลังจากนั้นน้องก็ทรุดลงอีกครั้ง กระทั่งมีการปั๊มหัวใจ แต่ครั้งนี้น้องไม่กลับมาแล้ว” ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ เข้ามาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทีมแพทย์และพยาบาลว่าเป็นไปอย่างล่าช้า โดยมีการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ ด.ช.ธีธัช เกตุทอง หรือ “น้องนิว” อายุ 15 ปี 


สำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อมูลและลำดับเหตุการณ์เวลาการเสียชีวิตของเด็กชายคนดังกล่าว พบว่าผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาอาการปวดท้องที่โรงพยาบาลชะอำ จังหวัดเพชรบุรีเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนั้นทีมแพทย์เข้าใจว่าอาจเกิดจากอาการ “กระเพาะทะลุ” แต่วินิจฉัยค่อนข้างยาก เพราะผู้ป่วยมีอาการสมาธิสั้น และออทิสติก จึงบอกอาการกับแพทย์ได้ไม่มากนัก มีการรักษาเบื้องต้นแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า อำเภอเมืองเพชรบุรีในช่วงเช้าของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา 


กระทั่งเวลา 13.30 นาที ของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ป่วยได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลพระจอมเกล้า หลังจากนั้นผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง จึงมีการส่งตัวเข้ารับการเอ็กซเรย์ เพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง กระทั่งเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ได้รับฟิล์มเอ็กซเรย์ จึงส่งข้อมูลให้กับแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ แต่ทว่าระหว่างรอผลวินิจฉัย พบว่าผู้ป่วยมีอาการหมดสติ แพทย์จึงเร่งช่วยเหลือด้วยการเจาะเลือดและปฐมพยาบาลเบื้องต้น หลังจากนั้นเวลา 14.45 นาที ผู้ป่วยถูกส่งตัวไปยังห้องฉุกเฉิน แต่พบว่าความดันตก จึงมีการตรวจอย่างละเอียด และเจาะเลือด พร้อมกับให้น้ำเกลือ ก่อนที่จะมีการซีทีสแกน ตรวจคลื่นหัวใจ กระทั่งพบอาการผิดปกติ ระหว่างนั้นผู้ป่วยเริ่มกระสับกระส่าย กระทั่งทีมแพทย์พบว่าผู้ป่วยมีอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” กระทั่งเวลา 16.38 น. พบว่าผู้ป่วยไม่มีชีพจรแล้ว ทีมแพทย์จึงปั๊มหัวใจ พร้อมกับให้เลือด 2 ถุง และเสียชีวิตลงในเวลา 17.15 น. 

กรณีนี้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าเหตุใดและทำไม ทีมแพทย์จึงปล่อยให้ผู้ป่วยที่มีอาการหนักขนาดนี้ต้องรอนาน ซึ่งล่าสุดนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.ธีธัช เกตุทอง โดยยืนยันว่าทีมแพทย์ไม่ได้ละทิ้งผู้ป่วยจนต้องเสียชีวิต เนื่องจากผู้ป่วยได้เดินทางมาในวันทำการ ทีมแพทย์และพยาบาลทุกคนก็อยู่ในหน้าที่ ซึ่งได้ทำการตรวจรักษาตามขั้นตอนไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเด็กมีอาการสมาธิสั้น จึงไม่สามารถบอกอาการแพทย์ได้มากเท่าที่ควร จึงวินิจฉัยอาการป่วยค่อนข้างลำบาก ประกอบกับอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” มักพบในผู้ป่วยสูงอายุและไม่ค่อยเจอในเด็ก กระทั่งทำให้เสียชีวิตเฉียบพลัน สุดที่จะรักษาได้อย่างทันท่วงที  พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้

 

ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นำศพของด.ช.ธีธัช ไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดชะอำคีรี อำเภอชะอำ เป็นระยะเวลา 5 คืน ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคมนี้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะบิดาและมารดาของผู้ตายที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านพี่สาวของ ด.ช.ธีธัช บอกว่าเบื้องต้นครอบครัวยังไม่คิดเอาเรื่องแพทย์และโรงพยาบาล แต่อยากให้มีการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ยอมรับว่าทั้งครอบครัวต่างเสียใจกับการสูญเสีย

สำนักข่าวไทย ติดต่อไปยังนายแพทย์ชัยสิทธิ์ แสงทวีสิน นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้อธิบายอาการ “เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอกแตก” โดยระบุว่า เป็นโรคแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับผนังเส้นเลือด ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน ก็จะไม่มีอาการ เพราะอาการของโรคเกี่ยวกับผนังเส้นเลือด จะไม่มีอาการเจ็บปวดแสดงออกมา การจะตรวจพบโดยเอ็กซเรย์ทรวงอกก็อาจเจอได้ ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการไปเรื่อยๆ ผนังเส้นเลือดก็จะโป่งพองมากขึ้นๆ จนแตก และจะมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซีด ช็อก และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว โรคนี้มักพบเจอในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 50-70 ปี เป็นเป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคเส้นเลือดแข็ง หรือหลอดเลือดแข็งตัว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือกลุ่มที่สูบบุหรี่ หรือเป็นโรคเบาหวาน ส่งผลให้ผนังเส้นแข็ง จนส่งผลให้เส้นเลือดอ่อนแอลง

อย่างในกรณีที่เกิดในเด็ก 15 ปี ยืนยันว่าร้อย 90 มักไม่ทราบสาเหตุ โดยสาเหตุใหญ่ที่สามารถเกิดได้ คือ “กรรมพันธุ์”  หรือเส้นเลือดในร่างกายอักเสบจะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่นำไปสู่เส้นเลือดโป่งพอง หรือเกิดจากอุบัติเหตุที่นำไปสู่การกระแทกที่รุนแรง จนทำให้พนังเส้นเลือดบอบบางผิดปกติและโป่งพองมา ซึ่งการกระแทกนั้นจะต้องเกิดที่บริเวณกระดูกสันหลัง แต่ยืนยันว่าการเป็น “ออทิสติก” ไม่มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงของโรค

โรคนี้เป็นโรคที่พบเจอได้น้อยมาก จากข้อมูลในต่างประเทศในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยประมาณ 5-6 ราย ส่วนตัวที่ทำงานด้านโรคหัวใจมา 30 ปีเจอก่อนหน้ากรณีนี้ในไทยเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น ส่วนหมอที่มีความเชี่ยวชาญที่จะรักษาในโรคนี้ในไทยมีไม่เกิน 10 คน และที่สำคัญต้องเป็นสถานที่ในการรักษาต้องมีอุปกรณ์รักษาที่ทันสมัยมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย