นาทีลั่นไกสังหาร 8 ศพ และชะตากรรมของเด็กน้อยผู้รอดชีวิต

กระบี่ 20 ก.ค.-การสอบสวนผู้ต้องหาของตำรวจ ทำให้เห็นภาพชัดเจนแล้วว่าเหตุการณ์สังหาร 8 ศพ ครอบครัวผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง เกิดขึ้นอย่างไร และทำให้ชีวิตที่รอดจากเหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ ไปติดตามจากรายงาน


บ้านสองหลังถูกสร้างในพื้นที่เดียวกัน หลังเล็กขวามือเป็นบ้านของนายสุทธิพงศ์ พริกดำ หนึ่งในผู้เสียชีวิต และนางอัญชลี บุตรเติบ ผู้เป็นภรรยา ซึ่งรอดชีวิต ในเหตุการณ์สังหารโหด 8 ศพผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง ครอบครัวและเครือญาติ ครอบครัวนายสุทธิพงศ์ ยังมีลูกอีก 2 คน ที่ถูกยิงบาดเจ็บในเหตุการณ์เดียวกันนี้ด้วย


ส่วนอีกหลังกำลังก่อสร้าง เป็นบ้านของนายสุริยา พัฒแก้ว และ น.ส.แอนนา บุตรเติบ คู่สามีภรรยาที่กำลังตั้งท้องลูก 3 เดือน แต่ถูกยิงเสียชีวิตทั้งสองคน และอีกชีวิตในท้อง ปิดอนาคต ปิดชีวิตที่กำลังก่อร่างสร้างครอบครัวด้วยกัน

หลังบ้านของทั้งสองครอบครัวเป็นสวนยางพาราเนื้อที่ 1 ไร่กว่า ที่พวกเขาแบ่งกันทำกินคนละครึ่ง แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น มีแต่ความเงียบที่อยู่เคียงคู่ที่นี่ สวนยางพาราถูกทิ้งร้างเช่นเดียวกับบ้าน วันนี้ไม่มีใครกรีดยาง ที่เคยเป็นรายได้ของสองครอบครัว 


อัญชลี แอนนา และดวงพร ภรรยาของผู้ใหญ่วรยุทธ เป็นพี่น้องร่วมสายเลือด พวกเธอเป็นแม่ที่ล้วนโชคร้าย อัญชลีและลูก 2 คน ถูกยิงบาดเจ็บ แต่แอนนา เสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง ส่วนดวงพร เสียชีวิตทั้งที่ยังเป็นแม่ลูกอ่อน นั่นคือน้องนาบิ้น วัย 3 เดือน ทายาทของผู้ใหญ่วรยุทธ เพียงคนเดียวที่รอดชีวิต

เด็กน้อยผู้ยังไร้เดียงสา ไม่รู้ชะตาโหดที่เกิดขึ้นกับครอบครัว วันนี้ไม่มีไออุ่นจากอกแม่ ไม่มีพี่สาวอีก 3 คน คอยหยอกเย้า และวันข้างหน้าก็ไม่รู้ชะตาชีวิตจะเป็นเช่นไร จินตนา บุตรเติบ น้องสาวของดวงพร เป็นผู้เลี้ยงดูนาบิ้นนับจากวันนั้น เธอสงสารหลานคนนี้จับใจ และพร้อมจะดูแลให้ดีที่สุด

คำให้การที่ทยอยออกจากปากผู้ต้องหา ทำให้เห็นภาพการสังหารวันนั้นชัดขึ้นแล้วว่า นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต และพวกต้องการมาอุ้มผู้ใหญ่วรยุทธไปฆ่าเพียงคนเดียว แผนการที่วางไว้คือปลอมเป็นทหารมาเชิญตัวผู้ใหญ่ไปสอบสวนในค่ายทหาร แต่จะฆ่าทิ้งระหว่างทาง

แต่ช่วงดึกราว 23.00 น. ระหว่างคุมตัวเหยื่อ 10 คน รวมถึงผู้ใหญ่วรยุทธ ไว้ในบ้าน คำพูดบางคำทำให้ผู้ใหญ่วรยุทธ รู้ว่าชายที่สวมหมวกไหมพรมบังใบหน้าเพียงคนเดียวคือ บังฟัต และเหยื่อทุกคนในนั้นก็รู้ด้วยแล้ว ทำให้บังฟัต และลูกทีมต้องวางแผนใหม่คือฆ่าทุกคน

จังหวะนั้น นายสุทธิพงศ์ สามีของอัญชลี มาตามลูกเมียกลับบ้าน เมื่ออัญชลีเห็น ก็ส่งเสียงโวยวายให้สามีรู้และช่วย จึงถูกบังฟัตยิงเป็นคนแรก แต่ไม่ตาย เมื่อสุทธิพงศ์เห็นเมียถูกยิง จึงวิ่งเข้าไปสู้ ก็ถูกทำร้ายและยิง 4 นัด

ตอนนั้นเหยื่อทั้งหมดกรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัว บังฟัตให้ลูกน้องคุมตัวผู้ใหญ่วรยุทธขึ้นรถ และเปิดเพลงเสียงดังกลบเสียงปืน และเป็นบังฟัต ที่ทยอยยิงศีรษะเหยื่อคนละนัด

ผู้ใหญ่วรยุทธ ได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งหนีลงจากรถ แต่ถูกนายอับดุลเลาะ ดอเลาะ ตามจับตัวได้ ผู้ใหญ่วรยุทธสู้และแย่งปืนจากนายดอเลาะได้ บังฟัตจึงสั่งให้นายอรุณ ทองคำ หรือบังกี ยิง และบังกี ก็ยิงผู้ใหญ่วรยุทธถึง 4 นัด เป็นคนสุดท้ายที่ถูกยิงในคืนนั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า