สนามหลวง 16 ก.ค.-กทม.ขยายเวลาให้บริษัทสื่อสารนำสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของ กฟน.ลงดินจนถึงวันที่ 15 ส.ค.นี้ หลังเกิดความผิดพลาดด้านเอกสาร
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรียกบริษัทสื่อสารเอกชนทุกราย ลงพื้นที่สำรวจสายสื่อสารรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อหาข้อ สรุปร่วมกันอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้กำหนดให้ทุกบริษัทนำสายสื่อสารลงดินภายในวันที่ 16 ก.ค. แต่เนื่องจากเกิดความผิดพลาดเรื่องของเอกสาร เพราะกทม.ระบุเพียงว่า ให้นำสายสื่อสารที่พาดผ่านบนเสาสีเขียว(เสาไฟให้แสงสว่าง)และเสาสีครีม (เสากล้องวงจรปิดซีซีทีวี) แต่ไม่ได้ระบุในส่วนของเสาการไฟฟ้านครหลวง จึงทำให้บริษัทสื่อสารนำสายสื่อสารลงดิน แต่เพียงส่วนที่พาดผ่านเสาสีเขียวและเสาสีครีมเท่านั้น วันจันทร์หน้า กทม.จะทำหนังสือส่งถึงการไฟฟ้านครหลวง และ กสทช.ให้ประสานไปยังบริษัทต่างๆ เพื่อดำเนินการเอาสายสื่อสารที่อยู่บนเสาไฟฟ้า ของการไฟฟ้านครหลวงทั้งหมด ลงดินภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ หากไม่เอาลงภายในกำหนดถือว่ามีความผิดตาม พรบ.ทางหลวง 2535 มาตรา 37 ,48,70,72 ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-60,000บาท จำคุกตั้งแต่ 3 เดือน- 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และ กทม.จะทำการรื้อถอนทันที โดยในส่วนถนนที่ต้องนำสายสื่อสารลงดิน ได้แก่ หน้าถนนมหาราช , ท้ายวัง ,สนามไชย , ราชดำเนินใน ,ราชดำเนินกลาง , หน้าพระลาน ,กัลยาไมตรี ,อัษฎางค์ , ราชบพิธ ,ดินสอ และพระสุเมรุ
ด้านน.ส.วิไล เถื่อนทองแถว ผู้แทนสำนักงาน กสทช.เปิดว่า หลังจากได้รับหนังสือจาก กทม.แล้วจะเร่งประสานไปยังบริษัทต่างๆ ให้เร็วที่สุด ซึ่งตามหลักการแล้ว การจะนำสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าลงดินต้องใช้เวลาประ มาณ 1 เดือนต่อ 1 พื้นที่ เนื่องจากต้องดำเนินการรื้อในช่วงกลาง เพื่อไม่ ให้กระทบกับประชาชน ระหว่างรื้อประชาชนอาจได้รับผลกระทบบ้าง อย่างเช่น สัญญาณโทรศัพท์ขาดหาย แต่ทางผู้ปกระกอบการจะทำการแจ้งเตือนก่อนรื้อทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ กทม.ทำการรื้อถอนตู้โทรศัพท์สาธารณะบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ ท่าพระจันทร์ จำนวน 4 ตู้ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว.-สำนักข่าวไทย