ปปง.13ก.ค.-ผู้เสียหายเข้าร้องปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดทรัพย์เพจลงทุนไม้กฤษณา(สาลิกาลิ้นทอง) หลังตกเป็นเหยื่อ เฉพาะที่ จ.ภูเก็ต คนเดียวสูญเงินเกือบสิบล้านบาท หวั่นคนอื่นตกเป็นเหยื่อ
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)แจ้งว่าวันนี้ (13ก.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำผู้เสียหายจาก การลงทุนในไม้กฤษณา(สาริกาลิ้นทอง ) มาร้องต่อ ปปง.เพื่อให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดทรัพย์กับเจ้าของเพจที่ชักชวนให้ลงทุนในสาริกาลิ้นทองที่มีการหลวกหลวงประชาชน โดยชักชวนให้มีการลงทุนไม้กฤษณาแบบแชร์ลูกโซ่ คือมีการหลอกให้ลงทุนโดยมีค่าความเสียหายหลายล้านบาท
โดยทางสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้พบภาพว่า เจ้าของเพจดังกล่าวได้ เอาเงินสดจำนวนนับหลายสิบล้านบาท มาถ่ายโปรโมทกับเจ้าของเพจ เพื่อเป็นการหลอกลวงและชักชวนให้คนเข้ามาร่วมลงทุนมากขึ้น จึงเกรงว่าจะมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ ประกอบกังวลว่า มิจฉาชีพจะโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปก่อน จะทำให้ผู้เสียหายไม่ได้ทรัพย์สินคืน จึงเดินทางมาเขียนคำร้องทุกข์ต่อเลขาธิการ ปปง.เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และใช้อำนาจตามกฏหมายอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน
นายสามารถ กล่าวว่า ผู้เสียหายเหล่านี้มาจากต่างจังหวัด อาทิ ภูเก็ต อุดรธานี ที่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ที่มีการชักชวนให้ลงทุน ในสาริกาลิ้นทอง โดยบังคับให้รักษายอดสูงถึงเดือนละ 50,000 บาท แล้วจะได้ค่าแนะนำร้อยละ 30 โดยการมาร้องทุกข์กับ ปปง. ครั้งนี้ เนื่องจากผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีอาญากับเจ้าของเพจ ที่ชักชวนให้ลงทุนในสาริกาลิ้นทองแล้ว ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน จึงเป็นอำนาจและหน้าที่ของ ปปง. ที่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงในให้ลงทุนในสาริกาลิ้นทอง อายุ 33 ปี จาก จ.ภูเก็ต เผยว่า รู้จักกับเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเมื่อปลายปี 2558 ซึ่งประกาศขายวัตถุมงคลประเภทต่างๆ อ้างว่าได้นำเข้าสาริกาจากพม่า โดยมีพระเป็นผู้แกะสลักจากไม้กฤษณาขาวและไม้อำพัน รวมทั้ง นำเข้าพิฆเนศจากอินเดียทุกรุ่น จึงติดต่อซื้อ สาริกา รุ่น รวยเปรี้ยง ราคา 3,900 บาท เพื่อบูชาเสริมสิริมงคลและทำมาค้าขาย จากนั้นประมาณต้นเดือน พ.ค.2559 เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ประกาศเปิดรับตัวแทนแต่ละจังหวัดจำหน่ายสินค้าวัตถุมงคลทางออนไลน์ โดยตนสนใจและสมัครค่าสมาชิกครั้งแรก 35,918 บาท
“ต่อมาช่วงปลายเดือนพ.ค.2559 เจ้าของเพจเฟซบุ๊กได้ติดต่อมาเพื่อให้สมัครเป็นตัวแทนระดับ วีไอพี (VIP) แต่ต้องเสียค่าสมัครเพิ่มอีก 200,000 บาท ซึ่งจะได้วัตถุมงคลเพิ่มเติมคือพระพิฆเนศ และกำไรข้อมือ โดยก็ตอบรับเพราะยังมีลูกค้าเป็นเพื่อนและบุคคลรู้จักในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ช่วยอุดหนุนสินค้าดังกล่าวทำให้สามารถพอประคับประคองตัวไปได้ จนกระทั่ง เดือน ต.ค.2559 เจ้าของเฟซบุ๊กยังมีโปรชั่นให้สามารถเปิดช็อปหน้าร้านค้าขายสินค้าได้ แต่ต้องจ่ายเงินอีก 1,000,000 บาท และจัดส่งวัตถุมงคลมาให้ครบทุกรุ่น” น.ส.ประวีณ์นุช กล่าว
จากนั้นเมื่อต้นปี 2560 เจ้าของเพจเฟซบุ๊กได้บอกตนว่าทำผิดกฎระเบียบเพราะไม่สั่งของตามเงื่อนไขเดือนละ 50,000 บาทจึงบล็อกออกจากกลุ่มและไม่รับสินค้าคืนทำให้เสียหายกว่า 8,600,000 บาท นอกจากนี้ ยังมี คนรู้จักเตือนแล้วว่าวัตถุมงคลที่จำหน่ายนั้น คล้ายสินค้าแถวย่านท่าพระจันทร์ พาหุรัด จึงตัดสินใจเดินทางมาดูด้วยตนเองพบว่าเหมือนกันมากจึงรู้ว่าถูกหลอกขาย ก่อนรวมตัวผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือและร้องทุกข์กล่าวโทษกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ด้านผู้เสียหายอีกหลายรายให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีการบังคับให้ลงทุนเดือนละ 50,000 บาทแล้วจะได้ค่าแนะนำร้อยละ 30 ถ้าไม่ลงทุนสั่งของก็จะถูกตัดรหัสออกไปจึงทำให้ผู้เสียหายต้องยอมไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน ผู้เสียหายบางคนต้องเอารถยนต์ที่ตัวเองมีไปเข้าไฟแนนซ์ก็มี โดยเหตุที่เชื่อในตอนแรกเพราะมิจฉาชีพได้นำภาพ ที่เอาเครื่องรางไปปลุกเสกที่พม่ามาโชว์จึงหลงเชื่อว่าไม้กฤษณาสาริกาลิ้นทองมีพุทธคุณจริงแต่หลังจากลงทุนมาจะครบ 1 ปี เริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติม จนได้บินไปถึงวัดที่พม่า จนรู้ตัวแล้วว่าถูกร้อง ผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์กล่าว.-สำนักข่าวไทย