พ่อแม่ร้อง ยธ.รื้อคดีลูกชายเสียชีวิตในคุก

ก.ยุติธรรม 3 ก.ค.-พ่อแม่ร้อง รองปลัด ยธ. ขอให้รื้อคดีบุตรชายเสียชีวิตในเรือนจำอำเภอธัญบุรี แจ้งสำลักอาหารตาย แต่ผลพิสูจน์ศพพบรอยช้ำกระแทกจากถูกของแข็ง


นายบุญสืบ เข็มนาค และนางอัมพร บัวเผื่อน เดินทางเข้าพบและขอความเป็นธรรมกับ พ ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังจากที่ นายอภิชาติ เข็มนาค อายุ 23 ปีบุตรชายที่เสียชีวิตในเรือนจำอำเภอธัญบุรี โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งกับญาติว่า”สำลักอาหารตาย” แต่เมื่อญาตินำศพส่งผ่าตรวจพิสูจน์ กลับพบว่ามีรอยช้ำ กระแทกจากการถูกของเเข็งทำร้ายตามร่างกาย จนเสียชีวิต


นายบุญสืบ กล่าวว่า ลูกชายตนเองโดนจับในคดีจำหน่ายยาเสพติดจำนวน 2,000 เม็ด และโดนศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 25 ปี และรับสารภาพจึงเหลือโทษจำคุก 15 ปีและถูกนำตัวเข้าไปคุมขังในเรือนจำอำเภอธัญบุรี เมื่อช่วงปลายปี 2557 โดยตนได้รับแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 หลังอยู่ในเรือนจำมาได้ประมาณ 8 เดือน ในวันรุ่งขึ้นจะถูกนำตัวย้ายไปเรือนจำ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยผลชันสูตร แพทย์ลงความเห็นหัวใจล้มเหลว ถูกของแข็งกระแทก ซึ่งสภาพรอยฟกช้ำบนศพทำให้ตนเองไม่เชื่อว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลว  เนื่องจากในวันเกิดเหตุลูกชายถูกลงโทษให้อยู่ในขังซอย ซึ่งในห้องขังซอยไม่น่ามีของแข็งที่สามารถเป็นอาวุธได้ และเชื่อว่ารอยฟกช้ำเกิดจากกระบอง และหัวรองเท้าบูทผู้คุมขัง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไปร้องหน่วยงานราชการหลายแห่ง ทั้ง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน,แพทยสภา,ป.ป.ช.,ป.ป.ท.,กระทรวงยุติธรรม และหน่วนงานอื่น โดยหน่วยงานต่างๆไม่มีความคืบหน้าในคดี โดยระบุว่าผู้คุมไม่มีความผิด ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้เพราะต้องมีหลักฐานใหม่นำมาใช้ โดยวันนี้ตนเองมาขอให้รองปลัด ยธ.รื้อฟื้นคดีโดยจะนำภาพถ่ายศพของลูกชายตนเองมาต่อสู้เพราะถ้าหากนำผลชันสูตรมาต่อสู้คงจะพ่ายแพ้


พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า จะนำภาพถ่ายจากการชันสูตรพลิกศพ และคำรับสารภาพของคู่กรณีที่ทะเลาะกับผู้ตาย โดยได้เตะและทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตเพื่อนำมาตรวจสอบว่าคำรับสารภาพ และสภาพศพตรงกันหรือไม่ และเหตุใดจึงต้องมีการขังซอย รวมถึงหลังเกิดเหตุเรือนจำได้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้หรือไม่  รวมทั้งจะทำเรื่องขอย้ายนักโทษคู่กรณีที่ทำร้ายผู้เสียชีวิตอออกจากเรือนจำอำเภอธัญบุรี เพื่อความสะดวกในการทำคดี   

อย่างไรก็ตามการรับคดีนี้ไม่ใช่เป็นการรื้อคดีแต่เป็นการสืบพยานใหม่ว่าตรงตามที่ร้องมาหรือไม่ คาดว่า ภายใน 1-2 เดือนจะสามารถสรุปผลการทำงานคดีนี้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน