กสม.ไม่หวั่นถูกเซ็ตซีโร่

กรุงเทพฯ  1 ก.ค.-กสม.ไม่หวั่นถูกเซ็ตซีโร่ เตรียมยื่นศาล รธน.ตีความสถานภาพ ที่จะส่งผลต่อการสมัครเข้ามาทำหน้าที่ของ กสม.ชุดใหม่ ห่วงคุณสมบัติสูงอาจทำให้ไม่ได้คนทำงานจริงมาทำหน้าที่


นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รับหลักการวาระที่ 1 ของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)  ตามที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้เสนอ ที่จะส่งผลให้มีการเซ็ตซีโร่ กสม.ว่า ส่วนตัวเห็นว่าหากจะมีการให้ กสม.ชุดปัจจุบันต้องยุติการทำหน้าที่หรือเซ็ตซีโร่ ตนก็พร้อมยอมรับถ้าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่ตนยังติดใจในประเด็นสถานภาพของ กสม.ว่าจะอยู่ในสถานภาพของการเป็นองค์กรอิสระหรือองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 กำหนดให้ กสม.เป็นองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญและได้มีการคัดเลือก กสม.ชุดที่ 2 และ 3 เข้ามาทำหน้าที่ ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 กำหนดให้ กสม.เป็นองค์กรอิสระ ดังนั้นจึงจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความสถานภาพของ กสม. เพราะส่งผลต่อการสมัครเข้าทำหน้าที่ กสม.ชุดใหม่ ที่มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะมาทำหน้าที่ต้องไม่เคยดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระใดมาก่อน ขณะเดียวกันเห็นว่าการกำหนดคุณสมบัติที่สูงเกินไปอาจทำให้ไม่ได้บุคคลที่มีประสบการณ์และทำงานด้านสิทธิมนุษชนอย่างแท้จริง

“ส่วนตัวไม่อยากคิดว่าจะมีใบสั่งให้เซ็ตซีโร่ แต่หวังว่า สนช.จะพิจารณาด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ เพราะ กสม.มีหน้าที่กว้างขวางในการดูแลสิทธิมนุษยชนของคนในหลายระดับ และหลายเรื่องกระทบกับสังคมวงกว้าง จึงอยากให้ได้คนที่ทำงานจริง ดีกว่าคนที่เข้ามาแล้วทำงานไม่ได้ ไม่ใช่ตั้งคุณสมบัติสูง อย่างเช่นต้องจบปริญญาตรี ตัดโอกาสคนที่ทำงานเพื่อชุมชนและคนที่ทำงานจริงในพื้นที่ หรือหากจะเลือกแต่นักวิชาการก็อาจส่งผลทำให้ไม่มีประสบการณ์จริง และการไม่ให้ตั้งคณะอนุกรรมการก็จะส่งผลให้การทำงานมีปัญหา เพราะปกติ กสม.จะต้องตั้งอนุกรรมการเข้ามาช่วยทำงาน ซึ่งอนุกรรมการจะเป็นตัวแทนภาคประชาชนในพื้นที่มาร่วมพิจารณา หากไม่มีก็จะทำให้ขาดการมีส่วนร่วม” นางอังคณา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย