เชียงใหม่ 31 ต.ค.-พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทุ่มเทพระวรกายทรงงานอย่างหนักเพื่อพสกนิกรของพระองค์ ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานให้หลายคน รวมทั้ง “ครูเรียม” ครูโรงเรียนบ้านขอบด้ง บนดอยอ่างขาง ซึ่งอุทิศชีวิตในการสอนหนังสือเด็กชาวไทยภูเขามานานกว่า 30 ปี ด้วยความรักและศรัทธาต่อพระองค์ ที่เคยรับสั่งฝากให้ครูช่วยดูแลเด็กชาวเขาเหล่านี้
บ้านขอบด้ง ชุมชนเล็กๆ ของชาวมูเซอ ไม่ไกลจากชายแดนไทย-เมียนมาร์ บนดอยอ่างขาง อ.ฝาง ที่เชียงใหม่ มีโรงเรียนไว้ให้เด็กๆ ในหมู่บ้านได้เรียนหนังสือมานานถึง 33 ปีแล้ว ซึ่งเท่ากับการเป็นครูที่นี่ของครูเรียม สิงห์ทร ในวัย 57 ปี ซึ่งเป็นเหมือนแสงเทียนแห่งการศึกษาเล่มแรกที่ปักบนดอยสูงแห่งนี้
บริเวณโรงเรียนมีป้ายไม้เขียนพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่รับสั่งกับครูเรียม เมื่อครั้งเสด็จฯ เยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้เมื่อปี 2535 แม้จะเป็นข้อความสั้นๆ แต่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้ครูเรียมตั้งใจทำหน้าที่ครูที่นี่มาถึงทุกวันนี้
ครูเรียมเล่าว่า พระองค์เป็นแรงบันดาลใจให้เธอมาก่อนหน้านี้แล้ว และยังจดจำความรู้สึกนั้นได้ดี เพราะย้อนไปเมื่อปี 2527 จากครูอนุบาลย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ ขึ้นมาเที่ยวอ่างขาง และชื่นชอบธรรมชาติ จึงส่งจดหมายสมัครเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครโครงการหลวง จนได้มาอยู่บนนี้ ซึ่งมีเพียงห้องเรียน 1 ห้อง ท่ามกลางความหนาว ชนกลุ่มน้อยยังสู้รบกัน ไม่มีไฟฟ้า และไม่มีนักเรียน เพราะเด็กๆ จะตามพ่อแม่ไปอยู่ในไร่ในสวน อยู่ได้ไม่นานเริ่มท้อแท้ถอดใจ เก็บเสื้อผ้าเตรียมกลับกรุงเทพฯ แต่เมื่อมองรูปเหนือกระดานดำ ทำให้เธอเปลี่ยนความคิดทันที
ครูเรียม เริ่มตามไปสอนเด็กๆ ถึงในไร่ในสวน จนชวนมาเรียนที่โรงเรียนจาก 1 คน 2 คน 5 คน ต่อปี จนตอนนี้มีนักเรียนตั้งแต่อนุบาล ถึง ปวช. 3 เกือบ 300 คนแล้ว และหากนับลูกศิษย์ของครูเรียมที่จบออกไปมีเกือบ 1,000 คน หลายคนเป็นผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ มีการศึกษาดีขึ้น ซึ่งครูเรียมบอกว่านี่เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านพระราชทานรั้วมีชีวิตให้ชายแดนแถบนี้
ครูเรียม ได้รับพระราชทานรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี ระดับครูยิ่งคุณ ประจำปี 2558 ซึ่งเธอตั้งใจจะทำหน้าที่ครูในช่วงเวลาที่เหลือให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย แม้จะอยู่ในถิ่นทุรกันดารและบนดอยสูงแบบนี้ก็ตาม.-สำนักข่าวไทย