กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – “บัณฑูร” เตือนระวังความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกโตช้า แนะภาคธุรกิจต้องคิดให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันคงไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเช่นเดียวกับปี 2540 แต่ก็มีความท้ายทายที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกโตช้า ภาระหนี้สินที่สูงและการลงทุนที่มากเกินไป ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงสมัยใหม่ที่แตกต่างจากอดีต โดยความเสี่ยงในยุคปัจจุบันคือความเสี่ยงจากความรู้ไม่ทันโลก ไม่ทันต่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซึ่งภาคธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันอาจต้องสะดุดและล้มหายตายจากไป โดยเฉพาะธุรกิจรายย่อย ซึ่งยังประเมินไม่ได้ว่าใครจะอยู่รอด เพราะเอกชนทุกรายต่างพยายามปรับตัวและพัฒนาให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่แล้ว
” โลกในยุคปัจุบันเป็นยุคสีเทา ซึ่งมีโอกาสที่ภาคธุรกิจจะได้ทั้งผลบวกและลบ รายใดปรับตัวได้ มีความคิดต่างก็อยู่รอด แต่ถ้าใครรู้ไม่ทันโลก มีความรู้น้อย สู้ไม่ได้ ก็ต้องล้มไป “นายบัณฑูร กล่าว
นายบัณฑูร ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันภาครัฐพยายามเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของภาครัฐที่ต้องมีประสิทธิภาพ เช่น ต้องมีการวิเคราะห์ต้นทุนและความคุ้มค่าของโครงการลงทุน อาทิโครงการคมนาคมขนส่ง ว่ามีผู้โดยสารเพียงพอที่จะคืนทุนได้หรือไม่ เช่นเดียวกับการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตกร ที่ต้องทำให้เกิดประสิทธิผลที่ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้โครงการประกันราคาสินค้าเกษตรเข้ามาช่วยเมื่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
ขณะเดียวกัน สินเชื่อปีนี้ โตร้อยละ 4-6 หลัง 5 เดือนแรก สินเชื่อขยายตัวไปแล้วร้อยละ 2.3 ซึ่งจะมาจากการเติบโตของภาครัฐที่เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งถือเป็นอัตราที่เหมาะสม เพราะถ้าหากสินเชื่อโตน้อยเกินไปก็จะไม่ช่วยการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันหากสินเชื่อขยายตัวเร็วเกินไปภาวะเศรษฐกิจก็อาจรองรับไม่ทัน หรือ ตกขอบได้ ดังนั้นจึงต้องมีความสมดุลทั้ง 2 ด้าน
ส่วนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังเชื่อว่าจะขยายตัวได้ ร้อยละ 3.3-3.4และ ปีหน้าก็จะดีกว่าปีนี้ หากการลงทุนของภาครัฐเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลถึงความต้องการสินเชื่อของธนาคาร ปีหน้าธนาคารคาดการณ์สินเชื่อเติบโต ร้อยละ 6-7 – สำนักข่าวไทย