อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติแนะเร่งแก้จุดเสี่ยงหวั่นซ้ำรอยปี 40

กรุงเทพฯ  26 มิ.ย. – อดีตผู้ว่าฯ ธปท.ห่วงปัญหาหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์–หนี้อสังหาริมทรัพย์ เป็นจุดเสี่ยงเศรษฐกิจไทย แนะเร่งแก้หวั่นซ้ำรอยปี 40 


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานเสวนา “20 ปีวิกฤติต้มยำกุ้ง : อดีตสู่อนาคต” ว่า หลังเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ทุกฝ่ายมีบทเรียนและทำงานอย่างหนักจนเศรษฐกิจไทยมีสมดุล มีดุลบัญชีเกินสะพัด มีทุนสำรองระหว่างประเทศสูง แต่ประเทศไทยไม่ควรประมาท อย่าชะล่าใจ เพราะวิกฤติเกิดขึ้นได้ตลอด โดยเฉพาะเมื่อพูดว่าไม่มีวิกฤติ โดยจุดที่ต้องจับตามองคือความมั่นคงของสหกรณ์ออมทรัพย์ เพราะปัจจุบันผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ไม่ให้ความสำคัญเรื่องข้อมูลหนี้ของสมาชิก ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาได้ให้สหกรณ์ออมทรัพย์เข้ามาเป็นสมาชิกบริษัทข้อมูลแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร แต่สหกรณ์ส่วนใหญ่กลับไม่นำข้อมูลเครดิตมาใช้ในการพิจารณาปล่อยกู้และยังปล่อยสินเชื่อโดยไม่ระมัดระวัง ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงลักษณะเดียวกับวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540   

นอกจากนี้ ยังแสดงความเป็นห่วงการปล่อยสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่พบว่าสถาบันการเงินบางแห่งปล่อยสินเชื่อโดยไม่มีธรรมาภิบาล  เช่น ปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้โดยไม่คำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ ลูกหนี้บางรายมีสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้เต็ม 100 % แต่ยังปล่อยสินเชื่อให้เป็นการสะท้อนว่าไม่มีวัฒนธรรมการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ควรมองข้ามและควรใช้จังหวะที่เศรษฐกิจไทยแข็งแรงแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้จบ


ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยทุกภาคส่วนไม่มีสัญญาณฟองสบู่ที่จะเกิดวิกฤติ แต่ยังมีจุดเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยต้องแก้ไขในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากประเทศไทย 3.0 เป็นประเทศไทย 4.0  ว่าจะสามารถนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อการปรับเปลี่ยนและการปฏิรูปได้หรือไม่ ต้องปฏิรูปทั้งระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ การศึกษา เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเพิ่มความสามารถการแข่งขันของประเทศ 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความกังวลเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณฟองสบู่ในเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป จีน เริ่มตั้งแต่ประเทศมหาอำนาจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน หรือ QE ถ้าประเทศมหาอำนาจเหล่านี้มีปัญหา สุดท้ายจะกระทบไทยทางอ้อม .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง