กทม.1 พ.ย.-กทม.ยอมรับสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวมีปัญหา พร้อมเตรียมขอ คสช.ใช้ม.44 ยกเว้นให้สร้างบ้านติดคลอง
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้าง โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล. )และประตูระบายน้ำ คลองลาดพร้าว คลองบางบัว คลองถนน คลองสอง และคลองบางซื่อ จากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า – รามคำแหงไปทางประตูระบายน้ำ คลองสองสายใต้
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนริมคลองลาดพร้าว เป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณปี 2558 ให้ กทม.ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.โดย กทม.ได้ว่าจ้าง บริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัดเป็นผู้ดำเนินการ ก่อสร้างเขื่อนระยะทาง 2 ฝั่ง 45,300เมตร และมีกำหนดเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน 2562 วงเงินค่าก่อสร้าง 1,645 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างในแนวคลองที่ไม่มีปัญหาชุมชนรุกล้ำพื้นที่ ยาวประมาณ 8 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามการก่อสร้างในจุดดังกล่าวเกิดปัญหาอุปสรรค เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการลำเรียงวัสดุก่อสร้างเข้าพื้นที่ โดยขณะนี้ ก่อสร้างเขื่อนไปได้เพียงร้อยละ 4.50 ซึ่งล่าช้ากว่าแผน แต่ กทม.จะปรับแผนดำเนินการ เพื่อเร่งการก่อสร้างให้เสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดภายในปี 2562
นอกจากนี้ ในพื้นที่แนวคลองลาดพร้าวยังมีชุมชนก่อสร้างบ้านรุกล้ำคลองจำนวนกว่า 50 ชุมชนซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อรื้อย้ายอาคาร บ้านหลังใหญ่ริมคลองลาดพร้าว บางจุด สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.)ไม่สามารถก่อสร้างบ้านมั่นคงได้ เนื่องจากติดปัญหาระยะร่นอาคาร ตามกฎหมายพ.ร.บ.ความคุมอาคาร ที่กำหนดการก่อสร้างบ้านเรือนริมคลอง ต้องเว้นระยะร่นอาคารจากแนวคลองอย่างน้อย 3-6 เมตร แต่ด้วยสภาพที่ดินริมคลอง หากเว้นพื้นที่ระยะร่นตามกฎหมายจะมีที่ดินไม่เพียงพอให้ประชาชนก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงต้องมีการข้อยกเว้นในจุดดังกล่าว โดย กทม.อยู่ระหว่างขอยกเว้นกฎหมาย โดยอาศัยอำนาจ ม.44 ให้สามารถก่อสร้างอาคารบ้านเรือนริมคลอง โดยไม่ต้องมีระยะร่นได้
ส่วนในการย้ายบ้านรุกล้ำออกจากพื้นที่คลองจะประสาน พอช.เร่งดำเนิน การโดยเร็วที่สุด เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้กทม.สามารถทำการสร้างเขื่อนได้ตามแผนที่กำหนดไว้.-สำนักข่าวไทย