ชุมพร 18 มิ.ย.-ตำรวจคุ้มกัน “เจ้าอาวาสวัด เล็บกระรอก” จังหวัดชุมพรหลังออกมาแฉแก๊งเงินทอนวัด ถูกข่มขู่ฆ่า ขณะที่ผลโพลนิด้าชี้ชัดประชาชนอยากให้ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายทรัพย์สินวัดอย่างเป็นระบบ
พระอธิการทวี ธัมมะทินโน เจ้าอาวาสวัดเล็บกระรอก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.สวี ตามคำนิมนต์ของตำรวจ เพื่อสอบปากคำ ไว้เป็นหลักฐาน หลังจากพระอธิการทวี ออกมาเปิดเผยกระบวนการโกงเงินอุดหนุนวัดกับสื่อ
โดยพระอธิการทวี เชื่อมั่นว่าพนักงานของธนาคารกรุงไทย สามารถเป็นพยานได้ว่าในเดือนธันวาคมปี 2558 มีการโอนเงินจากบัญชีวัดจำนวน 2 ล้านบาทที่เปิดขึ้นใหม่ไปยังบัญชีอื่นจริง ส่วนการข่มขู่นั้นเกิดตั้งแต่ต้นปี 2559 เนื่องจากไม่ให้ความร่วมมือกับแก๊งเงินทอนวัด ซึ่งล่าสุดมีกำลังตำรวจไปดูแลที่วัดแล้วก็สบายใจขึ้น ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับพระอธิการทวี ยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า มีพระชั้นปกครองโทรศัพท์มาข่มขู่จะปลดออกจากเจ้าอาวาสวัดเล็บกระรอก และจะให้ติดคุกเพียงคนเดียวด้วย
สำหรับประเด็นที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มี 12 วัดทุจริตเงินอุดหนุนการบูรณะปฏิสังขรณ์วัด นิด้าโพลไปสำรวจความคิดเห็นประชาชนพบว่า สาเหตุหลักของช่องโหว่ในการทุจริตเงินอุดหนุนวัด ร้อยละ 44.48 วัดขาดการบริหารจัดการ ร้อยละ 35.92 ความอ่อนแอของการบังคับใช้กฎหมาย ร้อยละ 29.84 สำนักพุทธฯ ขาดการบริหารจัดการ และร้อยละ 19.68 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ไม่สอดคล้องกับยุคสมัย
กลุ่มบุคคลที่ประชาชนมองว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำมิชอบ ร้อยละ 71.76 อาจจะเป็นคณะกรรมการวัด ร้อยละ38.24 เจ้าหน้าที่ของสำนักพุทธฯ และร้อยละ 36.96 เจ้าอาวาส เมื่อถามว่ามีความเห็นอย่างไร ที่จะให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายทรัพย์สินวัด ร้อยละ 86.8 เห็นด้วย เพื่อความเป็นระบบ เป็นกลาง ตรวจสอบได้ร้อยละ 8.72 ไม่เห็นด้วย เรื่องของภายในวัด
ส่วนการเปิดเผยข้อมูลการจัดทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย ทรัพย์สินของวัด แก่สาธารณชนพบว่า ร้อยละ 90.24 เห็นด้วย ประชาชนจะได้สบายใจ ได้รู้ว่าเงินที่ทำบุญไปนำไปใช้อะไรอย่างไรบ้าง ส่วนร้อยละ 3.92 ไม่เห็นด้วย อาจล่อแหลมชักนำกลุ่มผู้ประสงค์ไม่ดีหาผลประโยชน์จากวัด.-สำนักข่าวไทย