ทำเนียบฯ 14 มิ.ย.- รัฐบาล เผยที่ประชุมฝ่ายพิธีการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กำหนดจุดวางดอกไม้จันทน์ ล่วงหน้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความอาลัยก่อน และเตรียมประกาศการให้ประชาชนมีส่วนร่วมวันงานพระราชพิธี วันที่ 26 มิถุนายนนี้ สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเป็นองค์ประธานประชุมงานพระราชพิธีฯ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวานนี้ (13มิ.ย.) ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการเตรีมงานพระราชพิธีฯ ซึ่งมีการเตรียมการให้ทั่วประเทศและต่างประเทศเตรียมการจัดวางดอกไม้จันทน์ ล่วงหน้า แบ่งเป็น 2 ครั้ง คือก่อนวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ เพื่อจะได้ให้ประชาชนถวายความอาลัยก่อนและเป็นการเก็บภาพที่มีความสวยงามในการแสดงความอาลัยฉายพร้อมกันทั่วประเทศในวันจริงและลดความแออัดของประชาชนในวันพระราชพิธีฯ จริงด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครั้งที่2 จะจัดในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ วันที่26 ตุลาคม ทั้งนี้ดอกไม้จันทน์ที่วางก่อนทั้งในต่างประเทศและต่างจังหวัด จะเลือกมาเพียงบางดอก เพื่อนำเข้ามาร่วมในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงในวันที่26 ตุลาคม 2560 ส่วนดอกไม้จันทน์ที่เหลือจะถูกเผาในวัดที่จัดกิจกรรมเช่นเดียวกับต่างประเทศ ทั้งนี้การวางดอกไม้จันทน์ล่วงหน้าในประเทศ กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ดำเนินการประสานงาน
นายวิษณุ กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนหรือหน่วยงานอื่นๆสามารถจัดได้ โดยให้ใช้พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกษ ซึ่งสามารถขอได้ที่กระทรวงมหาดไทยเท่านั้น ส่วนรูปแบบการจัดซุ้มแล้วแต่หน่วยงานนั้นจะพิจารณาตามความเหมาะสม เช่นเดียวกับการจัดวางดอกไม้จันทน์ขึ้นอยู่แต่ละจังหวัดจะพิจารณาอย่างเหมาะสม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ จะจำกัดจำนวนผู้ที่เข้าร่วมงาน ซึ่งประชาชนที่จะเดินทางมาจองโรงแรมล่วงหน้าเพื่อรอเข้าร่วมงานนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะในบริเวณงานพิธีฯ จะมีการแบ่งพื้นที่สำหรับแขกที่จะเข้างานในแต่ละศาลา ซึ่งมีการประเมินว่าจะมีแขกประมาณ 7,000-7,500 คน ดังนั้นผู้ที่ไม่มีบัตรจะไม่สามารถเข้าไปในมณฑลพิธีได้ส่วนประชาชนสามารถเข้าได้เฉพาะในโซนทิศเหนือบริเวณโรงละครแห่งชาติ เพื่อเข้าชมเท่านั้น แต่จะไม่สามารถเข้าไปในชั้นมณฑลพิธีได้
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับการเชิญแขกที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธีฯนั้นทางสำนักพระราชวังและรัฐบาล จะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนผู้นำประเทศไหนสนใจจะเข้าร่วมงานรัฐบาลจะเตรียมการต้อนรับไว้ และนับจากนี้ผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีไม่ว่าจะเป็น พระบรมวงศานุวงศ์ พระอนุวงศ์ เอกอัครราชทูต คณะรัฐมนตรี และผู้มีตำแหน่งระดับสูง จะไม่สามารถนำรถเข้ามาในพระราชพิธีได้ ซึ่งจะมีการซักซ้อมในการเข้า ออกงาน
รายละเอียดการจัดงานพระราชพิธีฯทั้งหมดประชาชนจะมีส่วนร่วมและ รัฐบาลจะเตรียมการไว้อย่างไรจะนำเข้าที่ประชุมในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ซึ่งสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมและได้วินิจฉัย จึงจะมีการเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย