กระทรวงยุติธรรม 12 มิ.ย.-ทนายสงกานต์ ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มกรณีเอกชนถูกปลอมแปลงเอกสาร ด้าน ยธ.มีมติให้ดีเอสไอรับไปพิจารณา ดำเนินการ ว่าจะสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ หล้าสุดตา กรรมการผู้จัดการบริษัท ซี อินเตอร์ เนชั่นแนลโฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด ผู้ค้าสัตว์น้ำจืดรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการถูกปลอมแปลงและแอบอ้างสวมสิทธิ์ในการส่งออกไปยังต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2558 เดินทางเข้ามอบเอกสารหลักฐานในคดีดังกล่าวเพิ่มเติมต่อ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) หลังจากที่เคยเข้าร้องเรียนเรื่องดังกล่าวมาแล้วเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นายสงกานต์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการร้องเรียนในคดีนี้นานกว่า 2 ปี ไม่มีแนวโน้มความก้าวหน้า แต่หลังจากมาร้องที่กระทรวงยุติธรรม มีการขยับเร็วผิดปกติ แต่กลับมีข้อสงสัยการทำงานของพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ที่พยายามทำคดีนี้ให้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร โดยจะสรุปสำ นวนส่งอัยการในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ทั้งที่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศ วันนี้ได้นำเอาเอกสารหลักฐานปลอมที่คนร้ายปลอมขึ้นไปใช้ในธนาคารแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร มายื่นให้ ยธ.เพิ่มเติม โดยตนเองแจ้งต่ออัยการหากตำรวจส่งมาขอให้ตีเรื่องกลับ เพราะเรื่องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ พร้อมกันนี้เชื่อว่า ลักษณะพฤติการณ์น่าจะมีการทำเป็นขบวนการใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง จึงอยากให้ ยธ.ประสานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบว่ามีข้าราชการกลุ่มใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยอ้างว่าอาจมีข้าราชการเกี่ยวข้องด้วยนั้น ด้าน นายธวัชชัย กล่าวว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความยุ่งยากซับซ้อน และมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการของ ยธ.มีมติให้ ดีเอสไอ รับไปพิจารณาดำ เนินการ ว่าจะสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ พร้อมย้ำว่าขอให้ทำโดยรอบคอบ และให้นำหลักฐานเพิ่มเติมที่ได้วันนี้ไปประกอบการพิจารณาด้วย.-สำนักข่าวไทย