กรุงเทพฯ 7 มิ.ย.-ดีเอสไอพร้อมเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาตร์เข้าตรวจนับรถโจรกรรมในโชว์รูม “บอยยูนิตี้” พร้อมเก็บหลักฐาน รออังกฤษส่งคำฟ้องเพื่อดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องในไทย
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รอง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคิบหน้าการดำเนินการกรณีรถหรู ว่า ในวันนี้ประสานเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าตรวจเลขตัวถัง และเลขเครื่องยนต์ รถหรูและซุปเปอร์คาร์ทั้งหมดของ บริษัท เอส ทีที ออโต้คาร์ จำกัด ที่อายัดไว้ที่โชว์รูม เลขที่ 41 ถนนเทียมร่วมมิตร(สาขาห้วยขวาง) แขวง-เขตห้วยขวาง กทม. และโชว์รูม เลขที่ 267/13 ถนนสุขุมวิท 63(สาขาเอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เพื่อเก็บหลักฐานประกอบสำนวนคดี
ซึ่งช่าสุดหน่วยต่อต้านการโจรกรรมรถยนต์ สหราชอาณาจักร หรือ NaVCIS (National Vehiclei Crime Intelligence Sevice) ได้ติดตามสอบถามถึงรถหรูที่ถูกโจรกรรมมาและดีเอสไออายัดไว้ยังอยู่ครบหรือไม่ เพราะเป็นกังวลว่าหากสูญหายไป จะตามกลับคืนมาได้ยาก ดีเอสไอจึงเข้าไปตรวจนับพร้อมเก็บหลักฐานอื่นๆ โดยในส่วนของรถโจรกรรมนั้นอยู่ระหว่างรอให้ทางการอังกฤษส่งคำฟ้องมาเพื่อดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องในไทย
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า ส่วนรถที่นอกเหนือจากรถที่ถูกโจรกรรมมา และอยู่ในโชว์รูมทั้งหมดกว่า 30 คัน เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ตรวจสอบว่าเลี่ยงภาษีหรือไม่ ส่วนการเรียกผู้ประกอบการ เจ้าของโชว์รูมเข้ามาชี้แจงกับดีเอสไอ ขณะนี้ยังต้องรอทางกรมศุลกากรประเมินภาษีส่วนที่ชำระไว้ไม่ครบถ้วน โดยดีเอสไอได้ส่งหลักฐานราคาซื้อขายที่แท้จริงจากประเทศอังกฤษให้ไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว โดยทันทีที่กรมศุลกากรแจ้งข้อมูลการประเมินภาษีกลับมา ดีเอสไอก็พร้อมเรียกผู้ถูกกล่าวหาเข้ารับทราบข้อหาในคดีอาญาทันที.-สำนักข่าวไทย