“สมคิด” ดึงนักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนอีอีซี

กรุงโตเกียว 5 มิ.ย. – รองนายกรัฐมนตรีนำทีมเศรษฐกิจเยือนญี่ปุ่น ดึงลงทุนอีอีซี คาดมีเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านบาท 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำทีมเศรษฐกิจของไทย ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งมีมาอย่างยาวนานถึง 130 ปี เพื่อร่วมจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการปีนี้ เพื่อจัดงานในหลายโอกาสร่วมกันช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า ญี่ปุ่นจึงมีความสำคัญในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของไทย เมื่อหลายประเทศสนใจเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานการผลิต เพื่อกระจายออกสู่อาเซียนและตลาดโลก จึงต้องการดึงญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนเพิ่ม เนื่องจากมองว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศขนาดใหญ่อันดับโลก รองจากเยอรมนี สหรัฐ ซึ่งเริ่มนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ 4.0 การเชื่อมโยงกับเยอรมัน ญี่ปุ่น จึงเป็นส่วนสำคัญในการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย เพื่อชักชวนเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 

สำหรับการเดินทางครั้งนี้มีภาคเอกชนญี่ปุ่นหารือกับผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย เช่น บริษัท Spiber Inc  ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เจ้าของเป็นวัยหนุ่มสาว 35 ปี ศึกษาพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ด้านชีวภาพ ผลิตเส้นใยชนิดพิเศษจากโปรตีน จนมีความแข็งแรงมากกว่าเหล็กหลาย 300 เท่า เพื่อนำไปใช้ในด้านอากาศยาน ยานยนต์ จึงสนใจลงทุนในประเทศไทย เพราะมีความพร้อมหลายด้าน รวมทั้งรถยนต์ค่ายซูบารุเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นเวลานานหลายสิบปีที่มีความแข็งแรงทนทานด้านกระบะ แต่ร่วมกับสิงคโปร์ลงทุนฐานการผลิตในมาเลเซียเป็นเวลานาน เมื่อได้พัฒนาอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน จึงเชิญมาขยายการลงทุนในอีอีซีของไทย และมั่นใจ 90 % ว่าต้องการลงทุนแน่นอน 


ขณะที่บริษัท คูราเร่ สนใจร่วมทุนกับซุมิโตโม่ และพีทีที โกลบอล เคมิคัลของไทย เพื่อผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษในพื้นที่เหมราช – มาบตาพุด  นับว่ากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลายประเภทของญี่ปุ่นต้องการไปลงทุนในเขตอีอีซี คาดว่าจะมีเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อีอีซี หากโครงการลงทุนเหล่านี้เกิดขึ้นจะช่วยสนับสนุนซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของไทยให้แข็งแกร่ง ทั้งกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อากาศยาน และเครื่องมือแพทย์ 

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริษัทเอกชนเสนอยื่นขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอภายในสิ้นปีนี้ พร้อมรับข้อเสนอพิจารณาสิทธิพิเศษเป็นรายไป สำหรับอุตสาหกรรมที่เข้ามาร่วมพัฒนาและส่งผลต่อเศรษฐกิจของไทย จึงคาดว่าเอกชนหลายแห่งของญี่ปุ่นจะเริ่มลงทุนปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จึงนัดหารือรายละเอียดเป็นสาขา เป็นรายอุตสหากรรมเพิ่ม และยังพร้อมสนับสนุนผ่านกองทุนพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ยอมรับว่าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมต้องการความชัดเจนและความต่อเนื่องในการพัฒนาเขตอีอีซี รัฐบาลได้ย้ำไปว่ามีกฎหมายรองรับและเป็นนโยบายระดับชาติมีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง จึงเกิดความเชื่อมั่นกับนักลงทุน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย