นนทบุรี 4 มิ.ย. – คนไทยในเยอรมันตอบรับแนวคิดสตาร์ทอัพแบรนด์ “คนครัว” หลายบริษัทขอร่วมทุน ชื่นชอบไอเดีย-ทำกำไรได้ เน้นเจาะกลุ่มคนเคยเที่ยวไทย
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต เกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยที่ประสบความสำเร็จในเยอรมนี ว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพแบรนด์ “คนครัว” เป็นธุรกิจกล่องอาหารพร้อมปรุงของคนไทยเจ้าแรกในเยอรมนีได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมากจนได้รับการติดต่อขอร่วมทุนจากหลายบริษัทในเยอรมนี เนื่องจากชื่นชอบไอเดียและเห็นว่าธุรกิจนี้จะสามารถทำกำไรได้ดี
นางสาวพรพิมพ์ อำไพกิจพาณิชย์ เจ้าของธุรกิจคนครัว กล่าวว่า ธุรกิจนี้เกิดจากความรักในการทำอาหารไทย โดยเริ่มต้นธุรกิจจากการได้รับรางวัลประกวดโครงการกับเพื่อนในมหาวิทยาลัย แต่ธุรกิจใช้เงินลงทุนสูงเกินไป จึงปรับเปลี่ยนและลดค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด และเริ่มต้นลงทุนทำทุกอย่างด้วยตนเองใช้เงินลงทุนเพียง 10,000 บาทเท่านั้น โดยจัดทำเว็บไซต์รองรับการสั่งซื้อออนไลน์ มีวิดีทัศน์สอนทำอาหาร ตลอดจนส่งของให้ลูกค้าด้วยตนเอง ส่วนการบรรจุสินค้าเลือกใช้บริการของบริษัทในเยอรมนี
นางมาลี กล่าวเพิ่มเติมว่า โอกาสอาหารไทยในเยอรมนีมีสูงมาก เนื่องจากภาพลักษณ์อาหารไทยจัดอยู่ในระดับบน ชาวเยอรมันนิยมบริโภคอาหารไทยที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของผงชูรสหรือสารกันบูด และอาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมมาก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงประการแรก คือ ต้องมองในมุมของลูกค้าว่าลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งต้องอ้างอิงจากข้อมูลและสถิติ อีกทั้งต้องให้คุณค่ากับความเป็นไทยแท้ เน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทย เนื่องจากลูกค้าส่วนมากชื่นชอบในความเป็นไทย และอีกประการที่สำคัญมาก คือ เทคนิคการสื่อสารและการนำเสนอลูกค้า
เจ้าของแบรนด์คนครัว กล่าวว่า ช่วงแรกตั้งเป้าหมายกลุ่มลูกค้าไว้เพียงแค่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่เคยเดินทางไปไทยและคนที่รักเมืองไทย ซึ่งมีกว่า 600,000คน แต่ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าปัจจุบันส่วนมากกลับเป็นกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มผู้ชายวัยทำงานที่มีเวลาน้อย และกลุ่มผู้มีรายได้สูง ซึ่งเป็นคนในกลุ่มอายุ 30-45 ปีที่ให้ความสำคัญกับอาหาร โดยลูกค้าพร้อมที่จะจ่ายราคาสูงกว่าหากผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ กล่องอาหารพร้อมปรุงของคนครัวมีหลายเมนู อาทิ แกงมัสมั่น ผัดไทย ต้มยำ แกงเขียวหวาน เป็นต้น ซึ่งเป้าหมายต่อไป คือ ตลาดประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน เช่น สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย
ทั้งนี้ มีแนวคิดหลัก 4 ประการ ได้แก่ 1.รสชาติอร่อย ซึ่งลูกค้าได้ลงความเห็นว่ามีรสชาติอร่อยเหมือนกับรับประทานที่เมืองไทย 2.ส่วนผสมทั้งหมดไม่ใส่สารกันบูด ผงชูรส หรือวัตถุปรุงแต่งใด ๆ 3.สะดวก เพราะใช้เวลาเพียงแค่ 15-20 นาทีก็รับประทานได้ และ 4.ช่วยสนับสนุนคนไทย เพราะมีบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากเครื่องจักสานจากชุมชนในประเทศไทย ซึ่งช่วยสนับสนุนการจ้างงาน ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดีเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งชาวเยอรมันให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีจริยธรรม อาทิ แฟร์เทรด เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย