จ.นราธิวาส 2 มิ.ย.-รมว.ยุติธรรม มอบนโยบาย ผลักดันงาน 6 ด้าน 3จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมขอเจ้าหน้าที่อดทนทำงานเพราะอยู่ในพื้นที่พิเศษ
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหน่วยงานขึ้นตรงกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการให้ทุกหน่วยงานมุ่งเน้นการอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน ให้ทุกคนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้สะดวกรวดเร็วและเป็นธรรม โดยเน้นภารกิจหลัก 6 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เน้นสังคม ให้มีภูมิคุ้มกันปลอดภัยจากยาเสพติดโดยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านสกัดกั้นยาเสพติด เช่น โครงการแม่โขงปลอดภัย (safe mekong) รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแนวใหม่ ทั้งระบบสมัครใจ ระบบบังคับบำบัด และต้องโทษบำบัด โดยโอนให้ภารกิจการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพ ผู้ติดยาให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งมีสำนักงาน ป.ป.ส.กำกับนโยบายยาเสพติด
ประเด็นด้านการสร้างความปลอดภัยและความสุขในสังคม โดยการสร้างความเชื่อมั่นต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดและลดปริมาณอาชญากรรม ในชุมชน ขนานไปกับงานการพัฒนาพฤตินิสัย ทั้งระบบในส่วนงานของราชทัณฑ์ งานกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และงานกรมคุมประพฤติ เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวสู่สังคม
ด้านอำนวยความยุติธรรม เน้นการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกฎหมาย เช่น ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายการช่วยเหลือทางคดี ผ่านกองทุนยุติธรรมช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยผ่านกลไกศูนย์ยุติธรรมชุมชน สำนักงานยุติธรรม และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด พร้อมสร้างมาตรฐานประสิทธภาพในต่างๆในจังหวัดชายแดนใต้อย่างมั่นคง
ด้านการพัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะเน้นปฏิรูปกฎหมายให้มีความทันสมัย แก้กฎหมายไม่เป็นธรรมกับประชาชน และใช้กฎหมายที่มีอยู่เกิดประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านความมั่นคงโดยสร้างระบบฐานข้อมูลด้านอาชญากรรมมั่นคงและใช้ประโยชน์ร่วมกัน และพัฒนาระบบข่าวกรองสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ และนำงานนิติวิทยาศาสตร์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ
และด้านสุดท้ายคือการส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ เน้นให้สังคมมีความปรองดองสมานฉันท์ให้ประชาชนอยู่ร่วมอย่างสันติ ยึดหลักนิติธรรมและยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ เพื่อลดความขัดแย้งเยียวยาฟื้นฟู
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับงานทั้ง 6 ด้าน กระทรวงยุติธรรมจะปฏิบัติผ่านกลไกระดับชาติ ซึ่งมีคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) โดยมียุติธรรมจังหวัดเป็นศูนย์กลาง ก่อนให้บริการประชาชนในระดับจังหวัดต่อไป จึงอยากให้ข้าราชการในพื้นที่ทำงาน ด้วยความอดทนเพราะว่าอยู่ในพื้นที่พิเศษ.-สำนักข่าวไทย