กรุงเทพ 31 พ.ค.-ผู้ประกอบการโฆษณา สถานีโทรทัศน์และภาคเอกชน เดินหน้าปรับปรุงกระบวนการเซ็นเซอร์โฆษณาทางโทรทัศน์ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รองรับเพิ่มของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล และสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายฯเป็นรูปธรรมภายใน2-3เดือนข้างหน้า
สมาพันธ์สมาคมวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สภาวิชาชีพกิจการแพร่ภาพและการกระจายเสียงแห่งประเทศไทย สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย และสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ซึ่งรวมถึงสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆร่วมประชุมสรุปแนวทางการปรับปรุงกระบวนการตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ ให้สอดรับกับยุคทีวีดิจิทัล พร้อมจัดเสวนาในหัวข้อ”กำกับโฆษณาหนึ่งมาตรฐานในยุคดิจิทัล” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการทำงานการตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาร่วมกัน เพื่อให้กระบวนการเซ็นเซอร์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและดูแลตัวเองได้
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ในฐานะนายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและ วิทยุโทรทัศน์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับปรุงกระบวนการในการพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ เนื่องจาก ช่วง3-4 ปีที่ผ่านมา ระบบการพิจารณาภาพยนต์โฆษณาทางโทรทัศน์ หรือการเซ็นเซอร์ มีความล่าช้า เนื่องจากจำนวนของเจ้าหน้าที่เซ็นเซอร์ของแต่ละสถานี อนาล็อคเดิม4 ช่อง มีเพียงสถานีละ 3-4 คนเท่านั้น ขณะที่ปัจจุบันมีทีวีดิจิทัลเกิดขึ้น 20 กว่าสถานี ทำให้มีจำนวนโฆษณาเข้ามาสู่การพิจารณามากขึ้นกว่า 4 เท่า หรือแต่ละปีจะมีจำนวนสปอร์ตโฆษณาที่จะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ประมาณ 9,000-10,000 ชิ้น ซึ่งจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการพิจารณาเพื่อให้รวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสำคัญจากกฏหมายใหม่ๆที่เกิดขึ้นจำนวนมากและแต่ละฉบับยังมีกฎหมายลูกซ่อนอยู่ บางตัวผู้ประกอบการหรือเอเจนซี่ไม่ทราบถึงเนื้อหากฎหมายมาก่อน ทำให้เป็นอุปสรรค การเติบโตของธุรกิจโฆษณา ดังนั้น ต้องเร่งทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้งฝ่ายคณะกรรมการพิจารณาฯ และผู้ประกอบการ เนื่องจากหากการพิจารณา หรือเซ็นเซอร์ไม่ผ่านต้องกลับไปแก้ไขผู้ประกอบการก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท ถึงหลักแสน หรือถึงหลักล้านบาท หรือต้องถ่ายโฆษณาใหม่ ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงมาก
รวมทั้งการเกิดขึ้นขององค์กรอิสระ ที่เกิดขึ้นจำนวนมากและจับตามองสื่อเป็นพิเศษ อาจมีการทักท้วงในโฆษณาบางตัว ซึ่งคณะกรรมการพิจารณา ฯต้องรับฟัง และชี้แจงได้ในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งรวมทั้งภาคเอกชนและสมาคมโฆษณาจะต้องร่วมมือกัน อย่างจริงจัง ซึ่งวันนี้ก็มีความเห็นร่วมกันในการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านการตรวจพิจารณาโฆษณาทางโทรทัศน์และการอบรมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตรวจพิจารณาภาพยนต์โฆษณาทางโทรทัศน์ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน2-3เดือนข้างหน้า และมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นธุรกิจโฆษณาทางโทรทัศน์ ให้กระเตื้องขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก เช่น กลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งมีจำนวน นับ 10,000 แห่งที่สนใจพร้อมจะลงโฆษณาทางโทรทัศน์ในช่องทีวีดิจิทัลที่มีค่าโฆษณาถูกลง
ส่วนแนวทางการปรับปรุงกระบวนการเซ็นเซอร์โฆษณาทางโทรทัศน์ นายวิทวัส ชัยปาณี นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลอด23ปี ที่ผ่านมางานเซ็นเซอร์โฆษณาเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเซ็นเซอร์ ซึ่งประกอบด้วยสมาคมโฆษณาและตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์ อนาล็อค 4 ช่อง ซึ่งต้องทำงานกันอย่างหนักภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งจำนวนช่องที่เพิ่มขึ้นและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้การทำงานล่าช้า แต่โชคดีที่การพิจารณา โฆษณาที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ เกือบ 100เปอร์เซนต์ ไม่เคยมีปัญหา มี ปัญหาเพียงร้อยละ 0.02 เท่านั้น
โดยกระบวนการเซ็นเซอร์ใหม่นั้นจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ กำกับนโยบายชุดใหญ่ โดยดึงผู้ใหญ่จากสถานีโทรทัศน์ต่างๆมาร่วมเป็นกรรมการเพื่อพิจารณาชี้ขาดโฆษณาแต่ละชิ้นในการให้ออกอากาศได้หรือไม่ , ตั้งคณะกรรมการเซ็นเซอร์ชุดเล็ก 3 ชุด , ชุดแรกและชุดสอง ประกอบด้วยตัวแทนของแต่ละสถานีโทรทัศน์ และผู้เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมมาทำหน้าที่สกรีนเอกสารและ พิจารณาเนื้อหาโฆษณาทุกตัวก่อนที่จะเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายชุดใหญ่เพื่อให้การพิจารณามีความรวดเร็วยิ่งขึ้น และชุดสุดท้ายเป็นคณะกรรมการจรรยาบรรณ ทำหน้าที่กำกับดูแลในกรณีโฆษณาที่ออก ประกาศแล้วมีปัญหา ซึ่งกรรมการชุดนี้จะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายชุดใหญ่เพื่อสำหรับการออกอากาศได้ทันที มั่นใจว่า จะทำให้กระบวนการเซ็นเซอร์โฆษณามีความรวดเร็ว ดูแลตัวเองได้ และลดภาระหน่วยงานของรัฐ.-สำนักข่าวไทย