สพฐ.31 พ.ค.- สพฐ. ย้ำยังตรวจเข้มหนังสืออยู่ เจอผิดดำเนินการตามกฏหมาย
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)กระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงประเด็นที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบและดำเนินการกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในเรื่อง “ปัญหาตำราเรียนของ สพฐ.”
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ. ชี้แจงประเด็นที่ผู้ร้องเรียกร้องเงินค่าเสียหายกับนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาฯ และเลขาธิการ กพฐ. คืนแก่ผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องเสียเงินค่าห่อปกพลาสติกหนังสือเรียนกว่า 14 ล้านคน เฉลี่ยคนละ 250 บาท ต่อคน เป็นเงิน 3,500 ล้านบาทที่สั่งดำเนินการไปโดยคิดไม่รอบคอบ ว่า ข้อสั่งการของ รมว.ศึกษาฯ ในเรื่องโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพนั้น กำหนดเพียงให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดซื้อหนังสือเรียนเป็นของสถานศึกษาแล้วให้นักเรียนยืมเรียน และ สพฐ.ได้แจ้งนโยบายดังกล่าว พร้อมแนวปฏิบัติเกี่ยวกับหนังสือยืมเรียนไปยังเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าหนังสือที่ชำรุด กระทรวงศึกษาธิการ โดย สพฐ. จะจัดสรรงบประมาณการจัดซื้อทดแทนไม่ให้เป็นภาระของผู้ปกครอง
ส่วนกรณีการห่อปกหนังสือเรียนนั้น กระทรวงศึกษาธิการ โดย สพฐ. ขอเรียนว่าไม่เคยสั่งการให้ดำเนินการเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งการห่อปกหนังสือน่าจะเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ และประสงค์ที่จะทะนุถนอมหนังสือเรียนไว้ให้รุ่นน้อง ๆ ต่อไป
ในประเด็นการส่งหนังสือองค์การค้าของ สกสค. ที่ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ทันวันเปิดภาคเรียนในวันที่ 15 พ.ค.2560 จนทำให้นักเรียนต้องถ่ายเอกสารหนังสือเรียนไปเรียนแทน เป็นภาระเพิ่มค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง นั้น เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า สพฐ. ได้แจ้งการปรับปรุง และตรวจเนื้อหาหนังสือเรียนขององค์การค้าของ สกสค. และสำนักพิมพ์เอกชนพร้อมกัน
ส่วนกระบวนการจัดพิมพ์ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละสำนักพิมพ์ และการเลือกใช้หนังสือเรียนนั้น สพฐ. ให้อิสระแก่สถานศึกษาในการเลือกใช้จากบัญชีที่ได้รับอนุญาตที่มี ทั้งขององค์การค้าฯ และของเอกชน กรณีที่ผลิตและส่งไม่ทันเปิดภาคเรียนเป็นเรื่องของกระบวนการผลิตที่มีความแตกต่างกันไปของแต่ละสำนักพิมพ์
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวเพิ่มเติมเติม ในประเด็นเรื่อง บริษัทเอกชนตีพิมพ์ปกหนังสือเรียนที่ระบุว่า หนังสือเรียนเล่มนี้ได้มีการปรับปรุงเนื้อหาซึ่งไม่ตรงตามรูปแบบที่ สพฐ. อนุมัติ และมีการกล่าวหาว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชน ซึ่ง สพฐ. ได้ดำเนินการตรวจสอบหนังสือเรียนของทุกสำนักพิมพ์แล้ว กรณีที่พบว่าจัดพิมพ์ไม่ตรงตามฉบับอนุญาต ก็ได้แจ้งให้มีการแก้ไข และกำกับติดตาม รวมถึงการสุ่มลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบในระดับสถานศึกษา และหากพบไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีการเอื้อประโยชน์ตามที่กล่าวอ้าง .-สำนักข่าวไทย