กรุงเทพฯ 3 พ.ย. – กปน.พร้อมโชว์นวัตกรรมในงานประชุมชลประทานโลกที่เชียงใหม่ 6-12 พ.ย. ขณะที่กระทรวงเกษตรฯ พาต่างชาติทัวร์ “ห้วยฮ่องไคร้” แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านบริหารจัดการน้ำพลิกผืนดินแห้งให้อุดมสมบูรณ์
นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการ การประปานคหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการผู้บริหารและพนักงาน กปน.จะเข้าร่วมงานประชุมชลประทานโลกครั้งที่ 2 และการประชุมมนตรีฝ่ายบริหารระหว่างประเทศ ครั้งที่ 67 ระหว่างวันที่ 6-12 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์ประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยการจัดงานครั้งนี้ภายใต้แนวคิดหลักการบริหารจัดการน้ำภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลก : บทบาทการชลประทานต่อความยั่งยืนด้านอาหาร “Water Management in a Changing World: Role of Irrigation for Sustainable Food Production” โดยมีผู้บริหารระดับสูงจาก 50 หน่วยงานในประเทศไทย และอีกหลายหน่วยงานจาก 50 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม นอกจากนี้ กปน.ร่วมจัดนิทรรศการ “นวัตกรรม กปน. หุ่นยนต์สำรวจท่อไกรทอง” และ “โครงการ กปน. รักษ์ป่าต้นน้ำ” เพื่อเป็นการเผยแพร่แนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับงานพัฒนาแหล่งน้ำและงานชลประทาน ตลอดจนร่วมผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ เห็นความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่าการจัดประชุมครั้งนี้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ 3 หัวข้อหลัก ๆ คือ 1.การแสวงหาแนวทางการบริหารจัดการเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างน้ำ อาหาร พลังงาน และระบบนิเวศ 2. การร่วมกำหนดวิธีการรับมือที่เหมาะสมกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่มีผลต่อปริมาณน้ำทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง และ 3.เป็นการใช้ระบบชลประทานและการระบายน้ำ เพื่อลดความยากจนและความหิวโหย โดยร่วมวางแนวทางพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานให้เพียงพอที่จะสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยใช้ทำการเกษตร
“รัฐบาลได้ให้ความสำคัญของการจัดประชุมครั้งนี้มาก เพราะนอกจากจะทำให้ได้รับทราบความก้าวหน้าของการชลประทานของไทยและมีผลทางอ้อมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของประทศแล้ว ที่สำคัญที่สุดยังจะทำให้ทั่วโลกได้รับทราบถึงพระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะมีการจัดนิทรรศการนำเสนอแนวพระราชดำริด้านการบริหารจัดการน้ำชลประทานตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยในส่วนของนิทรรศการจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้วันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2559” รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ กรมชลประทานยังจะใช้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ต้อนรับและดูงานของผู้เข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีและผู้ที่สนใจ เพื่อแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พลิกผืนดินที่แห้งแล้งกว่า 8,500 ไร่ให้เป็นผืนดินที่อุดมบูรณ์ จนกลายเป็นศูนย์การศึกษาที่สมบูรณ์แบบ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อราษฎรที่จะเข้ามาศึกษากิจกรรมต่าง ๆ แล้วนำไปใช้ปฏิบัติอย่างได้ผล ทั้งการพัฒนาพื้นที่ป่าไม้ การพัฒนาแหล่งน้ำ ตลอดจนการส่งเสริมการประกอบอาชีพต่าง ๆ ไม่ว่า การเกษตร การประมง ปศุสัตว์ รวมทั้งด้านการเกษตรอุตสาหกรรมอีกด้วย ดังมีพระราชดำริว่าให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ทำหน้าที่เสมือน “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” หรืออีกนัยหนึ่งเป็น “สรุปผลของการพัฒนา” ที่ประชาชนจะเข้าไปเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้.-สำนักข่าวไทย