รร.เซ็นทารา เซ็นทรัลเวิลด์ 29 พ.ค. – งานประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention 2017 หรือ TRC 2017 เริ่มต้นแล้ว ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ข้าวไทย ก้าวใหม่…ด้วยนวัตกรรม” เพื่อนำเสนอศักยภาพความเป็นผู้นำของไทยในการผลิตและเป็นแหล่งซื้อขายข้าวคุณภาพดีของโลก
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “TRC 2017” และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การค้าข้าวไทยและทิศทางในอนาคต” โดยกล่าวว่า ท่ามกลางผู้แทนภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมข้าว ตั้งแต่ภาคการผลิต การค้า และการส่งออก ที่มาร่วมงานกว่า 40 ประเทศ และถือเป็นโอกาสดีที่ทุกฝ่ายจะมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ตลอดจนหาวิธีการแก้ปัญหาและพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวที่กำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยในส่วนของประเทศไทยได้มุ่งเน้นการระบายสตอกข้าว ซึ่งกดดันราคาข้าวมานาน
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลสามารถระบายข้าวได้แล้ว 13 ล้านตัน จากสตอกทั้งหมด 18 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งผลจากการแบกสตอกข้าวไว้ทำให้รัฐมีค่าใช้จ่ายจัดเก็บสูงถึงเดือนละกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัญหาข้าวมีความซับซ้อน ดังนั้น การแก้ไขจึงมีความจำเป็นต้องกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ข้าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งการปรับโครงสร้างการผลิต การลดพื้นที่เพาะปลูกเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการผลิตและการส่งออก ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนาสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและยังสนับสนุนการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนในการสร้างนวัตกรรมตามแนวทางประเทศไทย 4.0 เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง ขณะเดียวกัน ไทยยังพยายามเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV เนื่องจากมีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่ใกล้เคียงกัน เพื่อสร้างความรับรู้ให้ตลาดเข้าใจวิถีชุมชนและเห็นคุณค่าของข้าวมากขึ้น โดยในช่วงท้ายของการปาฐกถานายกรัฐมนตรียังขอร้องให้เกษตรกรและผู้ประกอบการทำความเข้าใจความพยายามในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งต้องอาศัยความต่อเนื่องและความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วย
สำหรับภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการ Rice Plus และได้จัดเตรียมห้องสำหรับเจรจาการค้า หรือ Business Matching เพื่อให้ผู้ส่งออกข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว และนวัตกรรมข้าวของไทยจับคู่เจรจาธุรกิจการค้ากับผู้นำเข้าจากประเทศต่าง ๆ และวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค) ผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ จะไปดูงานเกี่ยวกับข้าวและนวัตกรรมข้าวของไทย ณ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ซึ่งเปรียบเสมือนห้องทดลองงานด้านข้าวครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย รวมทั้งยังจะเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตในโรงงานเส้นหมี่และเครื่องสำอางประเภทต่าง ๆ ที่ทำมาจากข้าวด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลพยายามหาแนวทางลดต้นทุนการผลิตที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่เกษตรกรจะต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเองที่จะดูแลรักษาคุณภาพข้าวให้ดี เพื่อยกระดับข้าวไทย รวมทั้งรัฐบาลพยายามส่งเสริมให้เกิดนาแปลงใหญ่กำหนดแนวทางไว้ชัดเจนที่จะยกคุณภาพพืชผลทางการเกษตรของไทยให้สูงขึ้น แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร โดยยังมีหลายปัจจัยที่เกษตรกรไม่ยอมร่วมมือ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หากเกษตรกรไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิดและเคยถามหากจะใช้ระบบเดิม คือ การรับจำนำข้าวต่อไปในรัฐบาลหน้า และอะไรจะเกิดขึ้นอีก รัฐบาลชุดนี้เร่งระบายข้าวค้างสตอกและได้เงินมาเพียงแสนล้านบาทถือว่าน้อย แต่ต้องยอมรับข้าวค้างสตอกเน่าเสียและเสื่อมหมดแล้ว ขายได้แค่นี้ถือว่าดีแล้ว ส่วนการขายข้าวให้กับประเทศคู่ค้า อย่ามองแต่เพียงเป็นผู้ขายจะต้องมองว่าการสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าเป็นสิ่งที่ต้องทำและดำเนินการ ซึ่งการค้าระหว่าวกันจะต้องเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่เน้นแต่จะขายไม่เคยซื้อของประเทศคู่ค้า คนไทยจะต้องปรับแนวคิดเสียใหม่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคเอกชนที่จะปรับปรุงหันมาพัฒนาข้าวไทยเป็นนวัตกรรมในเชิงอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทย ดังนั้น การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกไปพร้อมกับการต่อยอดข้าวไทยไปสู่ภาคอุตสาหกรรมข้าวไทยมากขึ้น และเชื่อว่าปีนี้ไทยยังคงที่จะส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน
ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่มผู้นำเข้าข้าว ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมข้าว พร้อมด้วยผู้แทนการค้าจากหน่วยงานภาครัฐในประเทศผู้ซื้อ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกที่สำคัญ อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อิรัก อิหร่าน สเปน อังกฤษ ไนจีเรีย เคนยา แอฟริกาใต้ เวียดนาม กัมพูชา และ สปป. ลาว เป็นต้น ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ เกษตรกร และสื่อมวลชน รวมกว่า 1,000 คน และที่สำคัญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า สาธารณรัฐอิรัก พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงาน Grain Board ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวของอิรักได้เดินทางเข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย .-สำนักข่าวไทย
