กรุงเทพฯ27 พ.ค. –บาทไทยมีโอกาสแข็งค่าต่อ หลังสัปดาห์ที่แล้วแข็งค่าสุดในรอบ
22 เดือนใกล้ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
จำกัดรายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่ามา เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 22 เดือนใกล้ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้า
โดยเฉพาะในส่วนของตลาดพันธบัตรที่นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิถึง 1.33 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงบวกจากปัจจัยทางเทคนิค
และแรงขายเงินดอลลาร์ฯ
ซึ่งถูกกระตุ้นจากความไม่แน่นอนของจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
ในช่วงครึ่งหลังของปี โดย เงินบาทรักษาแรงบวกไว้ได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.
จนถึงช่วงปลายสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นจากทิศทาง ที่แข็งแกร่งของภาพรวมสกุลเงินในภูมิภาค
สำหรับในวันศุกร์ (26 พ.ค.)
เงินบาทอยู่ที่ 34.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.37
บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (12 พ.ค.)
ด้านดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นตามแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่
โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,569.27 เพิ่มขึ้น
1.27% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 12.03% จากสัปดาห์ก่อน
มาที่ 38,374.32 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai
ปิดที่ 573.03
จุด เพิ่มขึ้น 2.28% จากสัปดาห์ก่อน
ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้น-กลางสัปดาห์
จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร
หลังเริ่มมีสัญญาณบวกต่อการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ รวมทั้ง
แรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ก่อนการประชุมโอเปก อย่างไรก็ดี ดัชนีจะลดช่วงบวกลงเล็กน้อยในวันศุกร์
โดยมีแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน
หลังผลการประชุมโอเปกมีมติขยายระยะเวลามาตรการลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือน
สัปดาห์ถัดไป
(29 พ.ค.-2
มิ.ย.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.85-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,560 และ
1,545 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,575
และ 1,590 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
คงได้แก่ ทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดเกิดใหม่ รวมทั้ง
ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
สำคัญได้แก่ รายได้ครัวเรือน และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร
ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ
อาทิ ข้อมูล PMI ของจีน และญี่ปุ่น–สำนักข่าวไทย

