ทูตฟิลิปปินส์ ระบุ ยังไม่ต้องยกระดับ รปภ.สถานทูตฟิลิปปินส์

รัฐสภา24 พ.ค. -ทูตฟิลิปปินส์ ระบุ ยังไม่จำเป็นต้องยกระดับการรักษาความปลอดภัยสถานทูต หลังเกิดเหตุก่อการร้ายในฟิลิปปินส์ ขณะที่ ยังสรุปไม่ได้ว่าเชื่อมโยงเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎหรือไม่ ต้องรอผลสอบสวน หวัง ความสงบสุขจะกลับสู่ภูมิภาค ด้าน โฆษก กต. ยันไม่มีคนไทยพำนักบนเกาะมินดาเนา


นางแมรี โจ เอ. แบร์นาร์โด-อารากน (Mary Jo A. Bernardo-Aragon) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย กล่าวถึง สถานการณ์ก่อการร้ายในฟิลิปปินส์ เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ว่า ถึง  นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีแห่งฟิลิปปินส์ ได้ประกาศกฎอัยการศึก ที่เกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเวลา 60 วัน หลังเกิดเหตุกลุ่มทหารปะทะกลุ่มติดอาวุธ ว่า ต้องอัพเดทข้อมูลอีกครั้ง หลังควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พร้อมตระหนักถึงความปลอดภัยของชาวฟิลิปปินส์  เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ระดับโลก  ขอให้ชาวฟิลิปปินส์ทุกคนติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวัง และติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่

“ขณะนี้ ยังไม่จำเป็นต้องยกระดับ หรือเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศต่างๆ แต่มีการเฝ้าระวังการก่อเหตุ ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกประเทศ ส่วนการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ  ดิฉันไม่ได้ดูแลรับผิดชอบโดยตรง แต่เชื่อว่ามีความร่วมมือที่ดีระดับประเทศทั่วโลกอยู่แล้ว” นางแบร์นาโด-อารากน กล่าว


ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณก่อการร้าย ที่จะลุกลามในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือไม่นั้น นางแบร์นาร์โด-อารากน กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมีความร่วมมือทางการข่าว และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศกันอยู่แล้ว แต่ขอให้ทุกคนระมัดระวัง 

“ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีคำสั่งเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เชื่อว่า อีกไม่นานสถานการณ์จะคลี่คลาย แต่ประธานาธิบดีก็เป็นห่วงประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุ”  นางแบร์นาร์โด-อารากน กล่าว

ต่อข้อถามว่า สถานการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ในประเทศไทย จะมีความเชื่อมโยงกับฟิลิปปินส์หรือไม่ นางแบร์นาร์โด-อารากน  กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และหวังว่าความสงบสุขจะกลับสู่ภูมิภาคของเรา  


ด้าน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า  กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา เบื้องต้นทราบว่าไม่มีคนไทยพำนักอาศัยอยู่บนเกาะมินดาเนา จึงไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบแต่อย่างใด       .- สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

จากสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท

จากปี 2495 ของช่อง 4 บางขุนพรหม จุดเริ่มต้นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท ในปี 2568 มีการเปลี่ยนผ่านพัฒนาการในแวดวงสื่อสารมวลชนหลายยุคหลายสมัยมาอย่างไรบ้าง ติดตามจากรายงาน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต.ปล่อยฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต. ปล่อยฮั้วเลือก สว. เหตุไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กกต.ทำตามกฎหมาย หากเสียหายใช้สิทธิทางศาลอื่นได้