ปลัด สธ. กำชับสถานพยาบาลเข้มมาตรการปลอดภัย

สธ.23 พ.ค.-ปลัดสธ.กำชับสถานพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เข้มความปลอดภัยและบริหารความเสี่ยงในสถานบริการ 4 ข้อ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ผู้มารับบริการและเจ้าหน้าที่


นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานในสังกัด ว่า กระทรวงฯ ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของผู้มารับบริการในโรงพยาบาลในสังกัดที่มีมากกว่า 10,000 แห่ง กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นหน่วยบริการด้านสุขภาพ แต่ละวันมีผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และประชาชน เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัยและบริหารความเสี่ยงภายในสถานพยาบาล ป้องกันการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ที่จะนำไปสู่ความเสียหายทั้งต่อผู้ป่วย บุคลากร และโรงพยาบาล สร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจกับผู้รับบริการ 


โดยจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ติดกล้องวงจรปิด (CCTV) ในจุดสำคัญและจุดเสี่ยง อาทิ บริเวณโถงทางเดิน ทางเข้า-ออกโรงพยาบาล ในหอผู้ป่วยทุกแผนก รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแลระมัดระวังบุคคลแปลกหน้า และสังเกตคนเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่แล้ว 


สำหรับในช่วงเวลานี้ มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน ติดตามสถานการณ์และประสานกับฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง พร้อมให้พิจารณาสื่อสารและสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดตรวจสอบและเพิ่มมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ราชการให้เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ ดังนี้ 

1.ให้เข้มงวดการปฏิบัติในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของสถานที่ราชการ/สถานพยาบาล ตลอดจนประชาชนที่มารับบริการในทุกหน่วยงานในสังกัด 

2.ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไฟฟ้าส่องสว่างและบริเวณจุดอับ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งพิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมในพื้นที่/จุดเสี่ยง และสถานที่สำคัญในโรงพยาบาล  เช่น  จุดที่ให้บริการผู้ป่วยจำนวนมาก  ตึกผู้ป่วยนอก จุดที่ติดตั้งระบบออกซิเจน เป็นต้น   

3.เตรียมความพร้อมของทีมแพทย์ พยาบาล เวชภัณฑ์ วัสดุการแพทย์ การสำรองโลหิต และอื่น ๆ ให้สามารถปฏิบัติงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ ทั้งในที่ตั้งและเคลื่อนที่ช่วยเหลือทางการแพทย์ ณ จุดเกิดเหตุเมื่อได้รับการร้องขอจากฝ่ายความมั่นคง 

4.เฝ้าระวังเหตุการณ์และรายงานเมื่อมีเหตุผิดปกติหรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับโดยทันที

สำหรับการดูแลสถานพยาบาลในพื้นที่ กทม.ได้มอบหมายให้นพ.ธีระพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ วางมาตรการดูแลความปลอดภัยหน่วยงานในสังกัดอย่างเต็มที่ ทั้งการเฝ้าระวังและติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ตรวจตราพื้นที่โดยรอบตรวจตราบุคคล ยานพาหนะและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ให้พร้อมใช้ บริเวณที่เป็นจุดอับให้พิจารณาติดตั้งกล้องและไฟฟ้าเพิ่มเติม รวมทั้งให้เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่และระบบสำคัญ เช่น ระบบสาธารณูปโภค 

ส่วนบริการที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการหรือรวมอยู่กันเป็นจำนวนมาก  และมอบหมาย กำกับ เจ้าหน้าที่ลงตรวจตราพื้นที่อย่างใกล้ชิด ขอความร่วมมือประชาชนช่วยเจ้าหน้าที่ดูแล รักษาความปลอดภัยสถานที่โดยการสังเกตวัตถุ และบุคคลต้องสงสัย หากพบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร