รัฐสภายกระดับ รปภ. หลังเกิดเหตุระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า

รัฐสภา 22 พ.ค.- รัฐสภายกระดับการรักษาความปลอดภัย หลังเกิดเหตุระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า สั่งเพิ่มกำลังคุมเข้มเท่าตัวตลอด 24 ชั่วโมง หากพบไม่ติดบัตรแสดงตน เชิญออกนอกสถานที่ทันที พร้อมสั่งงดพักเวรยามและประสาน สน.ดุสิต เพิ่มวงรอบตรวจรอบพื้นที่รัฐสภา 


นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามพร้อมทำหนังสือแจ้งไปยัง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ในฐานะ ผู้รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยรัฐสภา ภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในช่วงสายของวันนี้ ว่า กลุ่มงานรักษาความปลอดภัย และกลุ่มงานเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย สำนักรักษาความปลอดภัย รัฐสภา ได้ประชุมปรับระดับการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณรัฐสภา โดยยกระดับจัดเวรรักษาการณ์ประจำจุดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเพิ่มจุดสำคัญและวางกำลังเพิ่ม 1 เท่าตัว พร้อมจัดเวรสายตรวจเดินเท้าตรวจสอบรอบบริเวณรัฐสภา และเพิ่มวงรอบตรวจให้ถี่ขึ้นจากเดิม 1 ชั่วโมงต่อรอบ เป็น 30 นาทีต่อรอบ ตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกบริเวณรัฐสภาอย่างเคร่งครัด มีสายตรวจเฝ้าระวังผู้ที่ไม่มีบัตรอยู่ในบริเวณรัฐสภาให้ออกนอกบริเวณรัฐสภาทันที และไม่อนุญาตรถที่ไม่มีบัตรอนุญาตเข้ามาในบริเวณรัฐสภา รวมทั้งตรวจสอบรถจอดค้างคืนว่าได้ขออนุญาตไว้หรือไม่ 


นอกจากนี้ ยังจัดเวรรักษาการณ์ดูกล้องซีซีทีวีตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบดูแลความเคลื่อนไหวต่างๆ ภายในบริเวณรัฐสภาและด้านหน้ารัฐสภา โดยรายงานผู้บังคับบัญชาเป็นระยะทุก 2 ชั่วโมง และให้ฝ่ายข่าวประสานงานกับ สถานีตำรวจนครบาลดุสิต เพื่อเพิ่มวงรอบการตรวจบริเวณด้านถนนอู่ทองใน และถนนราชวิถี ให้ถี่ขึ้นและรายงานทุกวัน โดยประสานงานด้านการติดตามข่าวที่มีผลกระทบต่อรัฐสภากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ขณะเดียวกัน ยังมีคำสั่งให้แม่บ้านสังเกตและตรวจสอบสิ่งผิดปกติตามห้องน้ำและถังขยะ รวมถึงสถานที่สำคัญหรือล่อแหลม เช่น สโมสรรัฐสภา หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งสำนักรักษาความปลอดภัยทันที 


กลุ่มงานรักษาความปลอดภัยและกลุ่มงานเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาปฏิบัติหน้าที่ดูแลและรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดโดยงดพักเวรยามในช่วงเวลานี้พร้อมปฏิบัติงานตามแผนสำรองฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก