เพชรบุรี 21 พ.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ติดตามคดีคนร้ายงัดตู้เอทีเอ็ม เชิดเงินไปกว่าสองล้านบาท ที่จังหวัดเพชรบุรี มั่นใจได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้
บ่ายวันนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีคนร้ายงัดตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ หน้า บริษัท เอส.อาร์.สปินนิ่ง จำกัด หมู่ 2 ตำบลต้นมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เมื่อเช้ามืดวานนี้ โดยได้หัวพ่นแก๊สตัดตู้เอทีเอ็ม และโจรกรรมเงินสดกว่า 2 ล้านบาทหลบหนีไป จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลักฐาน เช่น ถังแก๊ส ถังออกซิเจน และหัวพ่น ฯลฯ ส่วนภาพในกล้องวงจรปิด พบนายสมส่วน แสนหมื่น วัย 53 ปี รปภ.ของบริษัทเข้าเวรอยู่ และมีผู้ต้องสงสัยเดินมาขอน้ำดื่ม หลังจากหยิบน้ำในตู้ยามแล้ววิ่งออกไป ขณะใช้หัวแก๊สพ่นตัดตู้เอทีเอ็ม น่าจะเกิดการลุกไหม้ของธนบัตรภายในตู้ โดยที่ รปภ.คนดังกล่าวก็ยืนอยู่นอกตู้ยาม จึงคาดว่า รปภ.คนนี้อาจรู้จักกับผู้ต้องสงสัย อีกทั้งภาพที่ปรากฏ ก็ไม่ตรงกับคำบอกเล่าในครั้งแรก หลังเกิดเหตุ ผบช.ภาค 7 กล่าวว่า คดีนี้มั่นใจจะหาตัวผู้กระทำผิดได้ในเร็ว ๆ นี้
ส่วนที่จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฉาง พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านฉาง ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่หน้าธนาคาร 3 ตู้ถูกทุบพังเสียหาย 1 ตู้ เป็นช่องรูโหว่กว้างประมาณ 4 นิ้ว ตรวจสอบภายในพบว่าคนร้ายยังไม่ได้โจรกรรมเงินสดไปแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป แต่คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ เพราะเกิดบันดาลโทสะที่ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้เอทีเอ็มแล้วมีปัญหา หรือไม่ได้ดั่งใจจึงทุบตู้เอทีเอ็มก่อนหนีไป. -สำนักข่าวไทย