กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – ปตท.แจงกำไรไตรมาส 1 ราคาเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ทั้งสายอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 30.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็น 53.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ธุรกิจก๊าซฯ มีรายได้ลดลงจากราคาขายเฉลี่ยลดลงตามราคาก๊าซฯ อ้างอิงที่ลดลง
นายประเสริฐ สลิลอำไพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ปี 2560 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 46,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,499 ล้านบาท จาก 23,669 ล้านบาทของช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีสาเหตุจากราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 30.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 53.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และหนุนให้ราคาขายของผลิตภัณฑ์สูงขึ้น ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นส่งผลให้ ปตท.สามารถจ่ายภาษีสูงขึ้น เพื่อให้รัฐนำงบประมาณดังกล่าวไปพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชนต่อไป โดย ปตท.และบริษัทย่อย มีภาษีเงินได้ 6,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,616 ล้านบาท จากไตรมาส 1 ปีก่อนหน้านี้
“ผลการดำเนินงานที่เข้มแข็งของกลุ่ม ปตท.มีส่วนสำคัญในการเพิ่มศักยภาพให้กลุ่ม ปตท.สามารถดำเนินการ เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่จะสร้างความมั่นคงสำหรับประเทศไทยขณะนี้” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ยังคงยึดมั่นดำเนินการตามยุทธศาสตร์ “Do Now (การดำเนินการที่ทำทันที), Decide Now (โอกาสการลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่), และ Shape Now (การแสวงหาธุรกิจใหม่เพื่อความยั่งยืน)” ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ผลักดันให้มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยงวดนี้ ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 89,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.3 จากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบเพิ่มขึ้น และธุรกิจก๊าซธรรมชาติในส่วนของโรงแยกก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากต้นทุนก๊าซฯ ซึ่งอ้างอิงตามราคาน้ำมันเตาย้อนหลังที่ต่ำลง อีกทั้งราคาขายผลิตภัณฑ์ที่อิงกับราคาปิโตรเคมีปรับสูงขึ้น รวมทั้งปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2559 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 ปตท. และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,229,964 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 1,016,596 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,213,368 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย
