กทม. 19 พ.ค. – ปัญหาต้นไม้ใหญ่ล้มกลางกรุงเทพฯ ช่วงนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหาย จิตสำนึกส่วนรวมและการวางแผนก่อนปลูกไม้ใหญ่จะช่วยให้คนกรุงมีปอดขนาดใหญ่ที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนได้
แม่ค้าส้มตำย่านสุขุมวิท 53 เล่าวินาทีชีวิตเฉียดตาย จากเหตุต้นไม้ใหญ่ล้มทับร้านตัวเอง หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยย่านชิดลม เผยไม่มีสัญญาณบอกเหตุ จึงไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะค้าขายที่นี่มานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ยังไม่ก่อสร้างอาคารทับต้นไม้
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน มีลมกระโชกแรงจนประสบปัญหาต้นไม้ใหญ่หักโค่นต่อเนื่อง จากการสำรวจ กทม.มีต้นไม้ยืนต้นกว่า 3 ล้านต้น พบต้นไม้ใหญ่เสี่ยงโค่นล้ม 5 เขตใจกลางกรุง คือ เขตวัฒนา ปทุมวัน พระนคร ดุสิต และบางซื่อ สั่ง 50 เขตทั่วกรุง สำรวจความแข็งแรงต้นไม้ ยอมรับส่วนใหญ่ล้อมมาปลูกจึงไร้รากแก้ว เสี่ยงล้มสูง
รากค้ำยันที่ถูกตัดเพราะขัดขวางสิ่งก่อสร้าง คือ ปัญหาหลักที่รุกขกรผู้เชี่ยวชาญต้นไม้ใหญ่ เห็นว่าทำให้หักโค่นล้มได้ง่าย รากแก้วจึงไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ที่ไม่คำนึงถึงการเติบโตของต้นไม้ ทำลายความสมดุลของระบบรากและระบบเรือนยอด
เมืองกรุงมีต้นไม้ใหญ่เพียงร้อยละ 60 หากเทียบกับประเทศสิงคโปร์ แต่ประสบปัญหาต้นไม้ล้มช่วงฤดูฝนต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญชี้เป็นเพราะขาดการดูแลที่ถูกต้องจากรุกขกร ไร้การวางแผนก่อนปลูก วอนทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของต้นไม้ ก่อนขาดปอดขนาดใหญ่ที่เพิ่มอากาศหายใจให้กับคนกรุง. – สำนักข่าวไทย