กลาโหม 17 พ.ค.- ผู้แทนพิเศษรัฐบาล เสนอตั้งผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจประจำมาเลเซีย ทำหน้าที่ประสานงานแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยอมรับผู้ร่วมก่อเหตุวางระเบิดบิ๊กซี ปัตตานี มีชื่ออยู่ในโครงการพาคนกลับบ้านจริง แต่ไม่ได้เข้าร่วมอบรมจนจบ
นายจำนัล เหมือนดำ ผู้แทนพิเศษรัฐบาล รับผิดชอบกลุ่มงานที่ 5 พัฒนาศักยภาพในพื้นที่ คุณภาพชีวิตประชาชน แถลงภายหลังการประชุมว่า การประชุมผู้แทนพิเศษรัฐบาล วันนี้ มีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล เป็นประธาน โดยได้เชิญตัวแทนกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงพลังงานมาชี้แจงเป็นพิเศษ
นายจำนัล กล่าวว่า สำหรับกลุ่มงานที่ 4 ด้านการศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ซึ่ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้รับผิดชอบ ได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง และได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การศึกษา 20 ปี เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ให้ประชาชนในภาคใต้ได้รับการศึกษาตลอดชีวิต สอดคล้องกับการพัฒนาและสร้างความเท่าเทียมกัน โดยกระทรวงศึกษาธิการมีคณะทำงาน เกี่ยวกับการจัดระบบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว มาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา พิจารณาจัดทำหลักสูตร คู่มือสำหรับโรงเรียนตาดีกาในทุกพื้นที่ รวมไปถึงตรวจสอบการบริหารงานด้านงบประมาณของโรงเรียนเหล่านี้ และเชิญตัวผู้เห็นต่างมาทำความเข้าใจ
เมื่อถามถึงโครงการพาคนกลับบ้าน ที่ล่าสุดพบว่าผู้ต้องหาที่ร่วมวางระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานี เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว นายจำนัล กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อให้การดำเนินโครงการมีความเข้มงวดและรัดกุมมากขึ้น
ด้าน พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้แทนพิเศษกลุ่มงานที่ 2 อำนวยความยุติธรรมและเยียวยา แถลงว่า วันนี้กลุ่มงานที่ 2 ได้เสนอให้แต่งตั้ง ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจประจำมาเลเซีย เพื่อทำหน้าที่ประสานงาน แก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) กับรัฐบาลมาเลเซีย เช่น งานด้านการข่าว การดูแลความมั่นคง ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจประจำประเทศจีน กัมพูชา และเมียนมา ตั้งแต่ปี 2557
พล.ต.ท.ไพฑูรย์ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ จึงเห็นว่าควรมีผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจที่มาเลเซียด้วย เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับภาคใต้ และมีปัญหาเรื่องความมั่นคง ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่เสนอ โดยหลังจากนี้กองการต่างประเทศ สตช. จะไปดำเนินการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสม โดยมีคุณสมบัติสำคัญคือ ยศ พันตำรวจเอก มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ และมีความรู้งานในหน้าที่ จากนั้นจะส่งรายชื่อให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ จะประจำอยู่ที่สถานทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
ด้าน พล.อ.จำลอง คุณสงค์ คณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมเน้น 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.เรื่องพลังงานไฟฟ้าในจังหวัดชายแดนใต้ ที่จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าขึ้น โดยจะเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็ก ไม่เกิน 10 เมกกะวัต ซึ่งตอนนี้ยังติดปัญหาเรื่องผู้ลงทุน 2. ให้ กอ.รมน ภาค 4 ส่วนหน้า จัดชุดประเมินความสัมพันธ์หน่วยราชการกับประชาชน ในเรื่องของชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงเครื่องมือป้องกันเหตุ เช่น ความเพียงพอของกล้อง cctv ภายในพื้นที่ ที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่นั่งดูอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ปล่อยให้กล้องทำงานเพียงอย่างเดียว
พล.อ.จำลอง กล่าวว่า การสร้างสันติสุขชายแดนใต้นั้น คำตอบสุดท้ายคือภาคประชาชน หากทำให้ส่วนราชการเป็นเนื้อเดียวกับประชาชนได้ ก็จะทำให้งานสำเร็จ ในส่วนปัญหาคนที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน ร่วมก่อเหตุวางระเบิดบิ๊กซีปัตตานีนั้น ตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวมีชื่ออยู่ในโครงการจริง แต่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการและอยู่อบรมตามกระบวนการต่าง ๆ จนจบ
เมื่อถาม ถึงการปรับแก้ มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคง ให้สอดคล้องกับการดำเนินการตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินในการตรวจค้น และเชิญผู้ต้องสงสัยมาซักถาม พล.อ.จำลอง กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ เพราะการจะใช้ ม.21จะต้องยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อน ซึ่งจะกระทบต่อการติดตามตัวคนร้าย เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่มีอำนาจเข้าจับกุมคนร้ายได้ทันที ซึ่งเรื่องนี้ต้องมาหารือกันอีกครั้ง เพราะการใช้มาตรา21 จะต้องควบคู่กับการรักษาความสงบในพื้นที่ ดังนั้นจะต้องหากฎหมายอื่นมารองรับได้ คาดว่าได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย