นนทบุรี 16 พ.ค.-อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเร่งตรวจสอบข้อมูลหลังโซเชียลลงตลาดญี่ปุ่นพบทุเรียนอ่อนของไทยเพียบ เตรียมให้ความรู้ผู้นำเข้าและชาวสวนทุเรียน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของส่งออกทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นและตลาดจีน และตลาดฮ่องกงหลังจากมีการแชร์ข้อมูลผ่านโซเซียลพบทุเรียนอ่อนที่ยังบริโภคไม่ได้ออกมาวางจำหน่ายในตลาดของประเทศดังกล่าว หากเป็นจริงตามที่มีการแขร์ผ่านโลกโซเชียลจริงถือเป็นสิ่งที่น่าวิตกมาก เพราะเป็นการทำลายชื่อเสียงของผลไม้ไทย ไม่ใช่เฉพาะผลไม้ทุเรียนเพียงอย่างเดียว ดังนั้น จะเร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่อยากให้มีการสรุปว่าทุเรียนอ่อนนั้นมาจากประเทศใด เพราะจะต้องให้มีการรายงานข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ก่อน แต่จะต้องเร่งทำความเข้าใจและให้ความรู้ที่ถูกต้องให้กับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนแม้ว่าผลไม้ทุเรียนจะเป็นที่ต้องการของตลาดสำคัญ เช่น จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ซึ่งมีราคาดีโดยเร่งตัดทุเรียนที่ยังไม่โตเต็มทีเพื่อหวังราคาสูงเพียงอย่างเดียวอาจเป็นการทำลายภาพพจน์ผลไม้ทุเรียนไทยได้ รวมทั้งคงจะต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ประกอบการที่เป็นตัวกลางมารับทุเรียนถึงในสวนของเกษตรกรอย่าคิดแต่หวังกำไร ยอมสั่งซื้อทุเรียนเพื่อไปทำกำไร แต่เมื่อนำไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศแล้วจะได้รับผลเสียมากกว่าผลกำไร
โดยได้กำชับให้สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศช่วยประสานและชี้แจงกับผู้ประกอบการที่นำเข้าผลไม้ไทยให้ช่วยกันดูแล เพราะหากยังมีการกระทำโดยนำเข้าผลไม้ไทยไม่ถูกต้องเช่นนี้ตลาดต่างประเทศจะงดหรือไม่สั่งซื้อสินค้าผลไม้ไทยได้ และขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยมีแผนประชาสัมพันธ์ให้ชาวสวนทุเรียนได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งสัดส่วนการส่งออกผลไม้ทุเรียนไทยในแต่ละปีไปในตลาดเหล่านี้สูงถึงหลายหมื่นตัน คิดเป็นมูลค่านับพันล้านบาท จึงต้องร่วมกันดูแลไม่ให้กระทบต่อการส่งออกผลไม้ของไทย
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวทาง เพื่อให้ผลผลิตผลไม้ออกสู่ท้องตลาดต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่ช่วงฤดูกาล รองรับความต้องการของผู้บริโภค และจะยกระดับราคาผลไม้ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาผลไม้ที่สูงขึ้น และขาดแคลนในบางช่วงอาจทำให้ชาวสวนผลไม้เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น ทุเรียนอ่อน เพื่อรีบขาย ซึ่งถือว่าผิด และขณะนี้หน่วยงานภาครัฐต่างๆได้ส่งสายสืบ และสายตรวจเพื่อจับกุมผู้ที่กระทำผิด และอยากเตือนชาวสวนอย่าเร่งตัดผลอ่อน เพราะมีความผิดทางกฎหมายรวมทั้งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ .-สำนักข่าวไทย