จับแก๊งมารศาสนาตระเวนหลอกเงินพระ

สุรินทร์ 15 พ.ค.-ตำรวจภูธรภาค 4 จับได้แล้วมารศาสนา ตระเวนเดินสายหลอกเงินพระ โดนจับยกแก๊ง


วันนี้ (15 พ.ค.60) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เพจ “กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์” ได้มีการโพสต์ภาพและข้อความว่า จากกรณีมีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ หลอกลวงพระว่ามีงบประมาณช่วยสร้างวัด 700,000 บาท แต่ขอค่าดำเนินการและพาหลวงพ่อวัดกาเกาะเสกแอ เขต ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ไปเบิกเงินที่ธนาคารได้เงินไป 65,000 บาทนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้แล้วในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมพวกร่วมขบวนการรวม 4 คน โดยคนร้ายกลุ่มนี้ตระเวนก่อเหตุในลักษณะนี้ในหลายพื้นที่ ทั้งภาคอีสาน ภาคกลางและภาคใต้ และมีหมายจับในหลายคดี ขอบคุณพี่น้องสมาชิกเฟซที่ร่วมด้วยช่วยกันครับ


ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 เม.ย.60 ที่ผ่านมา คนในรูปหลอกพระว่ามาจากกระทรวงพุทธศาสนา ว่ามีงบให้ 700,000 บาท ช่วยสร้างวัด แต่ขอค่าดำเนินการและพาหลวงพ่อน้อย สิวโร หรือพระครูใบฎีกาน้อย สิวโร อายุ 83 พรรษา เจ้าสำนักสงฆ์พฤษาศรัทธาธรรม บ้านกาเกาะ-เสกแอ ต.ตาฮ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ขึ้นรถยนต์ไปเบิกเงินจำนวน 65,000 บาท และรูปจากกล้องธนาคาร ธกส. แยกไอคิว สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทนมีย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ ได้โพสต์ข้อความ และแชร์ภาพผ่านสื่อโซเชียล เพจ “กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์” และไลน์กลุ่มต่างๆ ทำให้ทราบว่า กลุ่มมิชฉาชีพแก๊งนี้ เดินสาย ตระเวนหลอกพระในพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลายครั้งแล้ว และมี 3 ใบจับในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบที่ สภ.เทนมีย์ พ.ต.อ.พิชิต มีแสง ผกก.สภ.เทนมีย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.สมคิด แคนสา พนังงานสอบสอบ เจ้าของคดี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เทนมีย์ ออกสืบและติดตามจับกลุ่ม โดยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ หลังหลวงพ่อน้อย สิวโร หรือพระครูใบฎีกาน้อย สิวโร อายุ 83พรรษา เจ้าสำนักสงฆ์พฤษาศรัทธาธรรม บ้านกาเกาะ-เสกแอ ต.ตาฮ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ถูกกลุ่มมิชฉาชีพหลอกเงิน 65,000 บาท และเมื่อเช้านี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแจ้งให้เจ้าทุกข์และชาวบ้านทราบแล้วว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 สามารถจับกลุ่มตัวได้ยกแก๊งเมื่อกลางดึก คืนที่ผ่านมา


ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้เดินทางไปที่ สำนักสงฆ์พฤษาศรัทธาธรรม บ้านเสกแอ ต.ตาฮ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พบชาวบ้านจำนวนมาก ต่างพากันดีใจ เมื่อทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทนมีย์ว่า จับกุมคนร้ายที่มาหลอกเงินพระได้ ต่างพากันทำพิธี เรียกขวัญให้และนำสายสิญจน์ ผูกข้อมือ หลวงพ่อน้อย สิวโร พร้อมกับพากัน นำเครื่องเซ่น สังเวย ไปเซ่นไหว้ศาลปู่ตา ประจำหมู่บ้าน หลังจากพากันบนบานศาลกล่าวให้จับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ววัน

นางชนากานต์ เพิ่มชูชี ผู้ใหญ่บ้านเสกแอ กล่าวว่าสำนักสงฆ์พฤษาศรัทธาธรรม มีชาวบ้าน 2 คุ้ม คือหมู่บ้านกาเกาะ และหมู่บ้านเสกแอ ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ชาวบ้านทุกคนต่างก็พากันมาทำบุญที่วัด มากกว่าเก่า เพราะสงสารหลวงพ่อที่ถูกกลุ่มมิชฉาชีพมาหลอก พอตนเองทราบข่าวได้แนะนำให้หลวงพี่ใกล้ชิด พาหลวงพ่อน้อย เข้าแจ้งความที่ สภ.เทนมีย์ ชาวบ้านต่างก็ช่วยกันดูแล และช่วยกันปลอบใจหลวงพ่อ

ด้าน หลวงพ่อน้อย สิวโร หรือพระครูใบฎีกาน้อย สิวโร เจ้าสำนักสงฆ์พฤษาศรัทธาธรรม บ้านกาเกาะ-เสกแอ กล่าวว่า เริ่มต้นจากที่วัดมีงานบวชนาค ได้มีชาย 2 คน เดินขึ้นมาบนกุฏิ แล้วถามหลวงพ่อว่า วัดมีงานอะไรบ้าง ก็ตอบไปว่า อาตมาจะจัดงานฉลองศาลา ฉลองกุฏิ ทำบุญฉลองอายุอาตมาด้วย พร้อมกับฉลองสมณะศักดิ์พระครูใบฎีกาด้วย เขาก็ว่าหลวงพ่อจัดงานใหญ่โต ก็คุยกันปกติธรรมดา จู่ๆ คนร้ายก็อ้าง เป็นเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนา อยู่ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ดูแลด้านงบประมาณ อ้างจะหาเงินมาช่วยทางวัด บอกว่า ชื่อ สมศักดิ์ แต่ไม่บอกนามสกุล เอารถเทามารับไปที่ศาลากกลางจังหวัดสุรินทร์เมื่อวันที่ 27 เม.ย.60 คนขับรถอยู่กับอาตมาในรถ ส่วนนายสมศักดิ์ ลงมาจากศาลากกลางจังหวัดสุรินทร์ เอาหนังสือมาให้เซ็นชื่อ ข้อความพออ่านดูก็เหมือน หนังสือที่เอามาที่วัด คนชื่อสมศักดิ์ ถามว่า หลวงพ่อได้เอาบัญชีธนาคารมามัย พอเอาบัญชีให้ดู คนชื่อสมศักดิ์ ก็บอกว่า หลวงพ่อต้องไปเบิกเงินในบัญชีมาก่อน ที่ ธนาคาร ธกส. แยกไอคิว เป็นจำนวนเงิน 65,000 บาท พอเบิกเงินเสร็จก็กลับไปที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายสมศักดิ์ก็บอกว่า ให้หลวงพ่อกลับวัดก่อน และขอเงินอีก 5,000 บาท เพื่อไปเลี้ยงเจ้านาย จนเงินเกลี้ยงกระเป๋าไม่มีเหลือ พร้อมกับรับปาก ว่าได้ผลแล้ว  มารู้ว่าถูกหลอก เมื่อวันที่ 2 พ.ค.60 คนร้ายให้ความหวังว่า จะพาไปรับที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เป็นเงิน 700,000 บาท พอเวลา 08.00-09.00 น.ฉันท์เช้าเสร็จก็ได้แต่นั่งคอย ไม่ได้บอกใครเลย เอะใจ เลยเวลาไม่เห็นมารับ ถึงเวลา 10 โมง 11 โมง จนเพลอีก ก็ไม่เห็นมารับ เอะใจขึ้นมาสงสัยโดนหลอกเข้าแล้ว ตั้งแต่บวชมาไม่เคยถูกหลอกแบบนี้ เคยแต่เอาของมาหลอกขาย ก็เลยหยิบโทรศัพท์โทรไปบอกลูกชายที่เป็นพระ อยู่ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พระลูกชายก็บอกว่าหลวงพ่อถูกหลอกแล้วบอกให้รีบไปแจ้งความ ก็เลยไปแจ้งวันเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 2 พ.ค.60.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย