รัฐสภา 15 พ.ค.- ผู้ว่า สตง. เตรียมนัด ผบ.ทร.แจ้งผลสอบเบื้องต้นการจัดซื้อเรือดำน้ำ ก่อนเปิดเผยในสัปดาห์นี้ พร้อมขอบคุณ “เรืองไกร” ให้ข้อมูลเพิ่ม ยืนยัน เดินหน้าตรวจสอบต่อ
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวถึง กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องถึงสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สอบเชิงลึก ปมซื้อเรือดำน้ำ เพราะข้องใจการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี และไม่พบงบกองทัพส่วนจัดซื้อ ว่า ต้องขอบคุณนายเรืองไกร ที่มอบประเด็นให้ และจะได้สอบเพิ่มเติมลึกลงไป
“ข้อเสนอให้สอบเพิ่ม ไม่ได้มีผลต่อระยะเวลาในการทำงานมากนัก บางประเด็นก็ตอบไม่ยาก อย่างกรณีที่ระบุว่า ไม่ปรากฎในงบประมาณการจัดซื้อของกองทัพเรือ เราก็ดูเอกสารการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ผมยังมีเวลาอีกอาทิตย์หนึ่ง” นายพิศิษฐ์ กล่าว
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เย็นวันนี้ (15 พ.ค.) จะรับฟังรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้น จากข้าราชการระดับสูงของ สตง. ว่ามีอะไรที่ต้องตรวจสอบขยายผลหรือไม่ คาดว่า หลังรับฟังรายงานในวันนี้แล้ว จะสามารถสรุปในเบื้องต้น และเปิดเผยรายงานได้ตามกำหนด 2 สัปดาห์ที่นัดหมายไว้ คือ ไม่เกินสัปดาห์หน้า
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติ ก่อนการแถลงผล จะแจ้งผลการสอบไปยังผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อทราบถึงช้อสังเกตที่มีการตรวจสอบ โดยจะพยายามประสานผู้บัญชาการทหารเรือ ภายในสัปดาห์นี้
“ผมได้กำชับไว้แล้วว่า ถ้าตรวจพบนัยสำคัญมาก ๆ ก็ให้รีบแจ้ง แต่ขอฟังรายงานเย็นนี้ก่อน ว่ามีนัยสำคัญอะไรมากไหม ถ้ามีมาก ผมคงต้องเร่งนัดผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อชี้แจงประเด็นที่สอบพบ เป็นการแจ้งข้อสังเกตจาการตรวจสอบเอกสารผูกพันที่นำเสนอ ครม.” นายพิศิษฐ์ กล่าว
สำหรับประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การทำสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำส่อขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ตรวจสอบ มีความเห็นในเบื้องต้นได้ แต่ไม่ “ฟันธง” ว่า ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสภา เพราะในอดีต การซื้อขายโดยวิธีการจัดซื้อจัดจ้างแบบรัฐต่อรัฐหลายครั้ง ไม่เห็นมีการนำเรื่องเข้าสภา
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ คำว่ารัฐต่อรัฐ ในขณะนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดสนธิสัญญา หรือก่อให้เกิดสิทธิสภาพนอกอาณาเขต หรือข้อผูกมัดที่ปฏิบัติแล้วกระทบต่ออธิปไตยของไทย เพียงแต่รัฐบาลเข้ามารับรู้ในขบวนการจัดหา เพื่อไม่ให้มีการบิดพริ้ว เมื่อเวลาสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกัน การรับรู้ของรัฐบาล จะทำให้มั่นใจว่า ไม่ปรากฎเรื่องคนกลางที่เป็นนายหน้า .-สำนักข่าวไทย