นครพนม 14 พ.ค.-นครพนมโผล่อีก เหยื่อนายทุนโหดเจ้าเดิมกู้ 60,000 บาท แต่ต้องทำสัญญา 120,000 บาท ได้รับเงินจริง 48,600 บาท
เรื่องราวเกี่ยวกับนายทุนโหดรายนี้ ยังคงมีเหยื่อออกมาเปิดเผยพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง จากการที่ใช้เล่ห์เพทุบายต่างๆ ไล่ยึดที่ดินของชาวบ้าน บางรายตรอมใจถึงขั้นฆ่าตัวตาย หรือป่วยเป็นโรคจิต เมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ ชาวบ้านจึงฮึดสู้ตามยถากรรม เช่นกรณีนางสาลิกา คนฉลาด อายุ 69 ปี ชาวจ.นครพนม ฮึดสู้กับอธรรมจนได้รับชัยชนะ แล้วฟ้องกลับนายทุนโหดรายนี้ จนศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งจำคุกนายทุน 2 ปี เรื่องอยู่ในระหว่างศาลอุทธรณ์พิจารณา ซึ่งจะนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 30 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้
ล่าสุดนายพัด จันทะพินิจ อายุ 79 ปี ชาวจ.นครพนม เหยื่ออีกรายหนึ่ง ที่ถูกนายทุนรายนี้ฟ้องศาลยึดที่ดิน เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 53 ไปกู้เงินนายทุนรายเดียวกับนางสาลิกา จำนวน 60,000 บาท เพื่อมาทำโรงสีข้าว โดยได้นำโฉนดที่ดิน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ไปจดจำนองไว้เป็นประกัน แต่มีข้อแม้ต้องทำสัญญาจดจำนองกับสำนักงานที่ดิน เป็นเงิน 120,000 บาท เมื่อทักท้วงกลุ่มนายทุนบอกทำกันไว้เฉยๆ หากไม่ทำจะไม่ให้กู้ จึงยอมทำตามและได้เงินมาเพียง 48,600 บาท ส่วนที่ขาดนายทุนอ้างหักไว้เป็นค่าดอกเบี้ย3เดือน ค่าธรรมเนียมจดจำนองและค่านายหน้า ต่อมาได้นำเงินไปชำระหนี้เพื่อขอไถ่ถอนที่ดินคืน แต่ไม่ ลูกน้องนายทุนพยายามบ่ายเบี่ยงว่า นายทุนไม่อยู่ไปต่างประเทศไปต่างจังหวัด จนครบสัญญาปี 2558 ก็มีหมายศาลมาที่บ้าน ฟ้องบังคับจำนองว่าตนผิดสัญญา นายทุนจะยึดที่ดินดังกล่าว จึงไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจ.นครพนม แต่คดีไม่คืบ จึงไปศูนย์ดำรงธรรมทำเนียบรัฐบาล
กระทั่งมีคำสั่งให้ จ.นครพนม ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย มีลูกหนี้ที่เดือดร้อนจากนายทุนรายนี้ 15 ราย แต่ได้รับการไกล่เกลี่ยเพียงรายเดียว คือนางบุญอุ้ม วงศ์ยา ขณะนั้นทางกรมสอบสวนคดีพิเศษยื่นมือเข้ามาช่วย ตนจึงใช้เงินจากกองทุนยุติธรรมต่อสู้คดีที่ศาล จ.นครพนม ฟ้องนายทุนคือบริษัทภูวษา จำกัด ที่บังคับจำนองเป็นเงินต้น 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 76,537 บาท รวม 196, 537 บาท ต่อมาศาลพิพากษาให้ตนชำระหนี้เพียง 48,600บาท ตามที่ได้รับไปจริงๆ จึงไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่ไปไถ่ถอนทีดินกลับมาได้ในที่สุด ต่อมาชาวบ้านที่เหยื่อของนายทุนรายนี้ มาสอบถามตนถึงแนวทางการต่อสู้คดี พร้อมแนะนำให้ตนฟ้องดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนฐานเบิกความอันเป็นเท็จ แต่ตนเห็นว่าอายุตนก็มากแล้วที่ผ่านมาถือว่าเป็นกรรมเก่าที่ต้องชดใช้ และตนก็ได้อโหสิกรรม.-สำนักข่าวไทย
