นนทบุรี 11 พ.ค.-กระทรวงพาณิชย์ เร่งหาตลาดรองรับให้แก่เกษตรกร โดยได้ดึงผู้ประกอบการห้างค้าปลีก ผู้ส่งออกและแปรรูป ลงนามสัญญารับซื้อผลไม้ จากเกษตรกร 15 ราย รวมปริมาณกว่า 3,830 ตัน มูลค่ากว่า 180 ล้านบาท
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังในการลงนามสัญญาซื้อขายผลไม้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ผ่านสัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายใน ระหว่าง ผู้ซื้อ ที่เป็นผู้ประกอบการกลุ่มห้างค้าปลีก ส่งออก และแปรรูปสินค้า 9 ราย เช่น บริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล จำกัด แมคโคร บริษัท วันบานาน่า จำกัด และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผลไม้ปลอดภัยสารพิษเพื่อส่งออก เป็นต้น และฝ่ายผู้ขาย 15 ราย ได้แก่ สหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตรจังหวัดตราด จำกัด วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออกตำบลชัยนาม และ กลุ่มเกษตรกรจังหวัดราชบุรี เป็นต้น โดยเจรจาตกลงซื้อขาย ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ลำไย ชมพู่ ส้มเขียวหวาน สับปะรด มะม่วงน้ำดอกไม้ ฝรั่ง และกล้วยเล็บมือนาง รวมปริมาณ 3,830 ตัน มูลค่า 180 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ผลไม้ จะออกสู่ตลาดต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนธันวาคม และคาดว่า ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ถึงร้อยละ 28 จึงต้องเตรียมแผนด้านการตลาดรองรับไว้ล่วงหน้า ซึ่งการลงนามสัญญาดังกล่าว เป็นการซื้อขายสินค้าเกษตรที่มีข้อตกลงไว้ล่วงหน้าก่อนการเพาะปลูก โดยมีการทำสัญญาข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรที่ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการผลิตที่มีมาตรฐาน การตลาด การส่งมอบสินค้า และการชำระเงิน เป็นต้น เพื่อสร้างรายได้ที่แน่นอนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา และผลักดันให้มีการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่ ผู้ประกอบการ ได้รับผลผลิตที่มีคุณภาพตามความต้องการ และสามารถวางแผนการผลิตและการตลาดล่วงหน้าได้
ส่วนการควบคุมคุณภาพผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนนั้น ยอมรับว่า ได้รับข้อร้องเรียนจากผู้นำเข้าในฮ่องกง ยังพบปัญหาทุเรียนอ่อน หรือกระแสข่าวพบสารสีเหลืองในทุเรียนที่ส่งออกไปประเทศจีน / ทำให้ในสัปดาห์หน้า ได้นัดหารือกับกรมวิชาการเกษตร รวมไปถึงผู้ส่งออก เพื่อหามาตรการกำกับดูแลคุณภาพ โดยเฉพาะแนวทางปฏิบัติให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพิ่มเติมจากระเบียบข้อบังคับ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีอยู่แล้ว เพื่อรักษาตลาดส่งออกผลไม้ไทย.-สำนักข่าวไทย