นนทบุรี 7 พ.ค. – พาณิชย์ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนทั้งระบบ ร่วมกับ 10 พันธมิตร ใช้อี-คอมเมิร์ซต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร สร้างรายได้ผ่านธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เล็งค้าส่ง-ปลีกในพื้นที่เพิ่มช่องทางการขายและเป็นพี่เลี้ยง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy) ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงฯ กำหนดแนวทางการพัฒนา โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลภาคประชาชนผ่านโครงการความร่วมมือการส่งเสริมเศรษฐกิจผู้ประกอบการในชุมชนท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยเฉพาะการส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ผู้ประกอบการรายใหม่ (สตาร์ทอัพ) ตลอดจนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนแต่ละท้องถิ่นมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำธุรกิจและส่งเสริมให้เป็นผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซ ที่ใช้การตลาดดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการทำ “ร้านค้าออนไลน์” แบบครบวงจร รวมถึงส่งเสริมการใช้อี-คอมเมิร์ซประกอบอาชีพและการตลาดผ่านตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน
สำหรับแนวทางการส่งเสริมและพัฒนา จะนำโมเดลการพัฒนาร้านค้าส่งค้าปลีกเป็นต้นแบบมาใช้ เนื่องจากโมเดลดังกล่าวเป็นการนำเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการสินค้าในสตอกสามารถลดต้นทุน ลดเวลา และสินค้าคงเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถขยายโอกาสทางการตลาดด้วยระบบการค้าออนไลน์แบบครบวงจร ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบในพื้นที่ทั่วประเทศ 114 ร้านค้า และร้านค้าเครือข่ายอีกกว่า 5,000 แห่ง เป็นจุดช่วยกระจายสินค้าและเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในชุมชน เพื่อให้ธุรกิจมีความเข้มแข็ง ท้องถิ่นมีความมั่นคง และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของประเทศและเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศให้มีศักยภาพ
นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรบูรณาการแพล็ตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ ของหน่วยงานภาครัฐ โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นหน่วยงานกลางรวบรวมข้อมูลแต่ละแพล็ตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ เช่น ข้อมูลผู้ประกอบการ ช่องทางการติดต่อ คุณสมบัติผู้ซื้อขาย เป็นต้น เพื่อร่วมกันประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตสินค้าชุมชนเอสเอ็มอี ผู้ส่งออก ผู้ซื้อที่เป็นผู้บริโภคปลายทาง ผู้ซื้อที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตต่อและผู้ซื้อในต่างประเทศ รวมถึงเร่งประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกแพล็ตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ ต่างๆ ที่เป็นผู้ขายสินค้า/บริการออนไลน์ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์แสดงสถานะตัวตน และขอรับเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) และเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการซื้อขายผ่านร้านค้าออนไลน์.-สำนักข่าวไทย