กระบี่ 6 พ.ค. – ปัญหาที่ดินสวนปาล์มที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีชาวบ้านเข้าไปครอบครอง ขณะทางการพยายามผลักดัน ซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นระยะ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหวิดเกิดการกระทบกระทั่งกันอีก
โดยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ กว่า 100 คน พยายามเข้าเจรจา ให้กลุ่มชาวบ้านผู้เรียกร้องที่ดินทำกิน ในนามกลุ่มเกษตรสรรค์สร้างสังคมใหม่ จำนวนกว่า 30 คน ออกจากพื้นที่ หลังเข้าปักหลังชุมนุมสร้างที่พักในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ของ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา เพื่อเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้กระบี่ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม จังหวัดกระบี่ นิคมสหกรณ์ บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดี กับบริษัทเอกชน หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่ ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง หน่วยป้องกันรักษาป่า อำเภอปลายพระยา และตัวแทนบริษัท พบว่าบริษัท ได้รับอนุญาตสัมปทานพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน จำนวน 8,500 ไร่ ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 2566 แต่ครอบครองพื้นที่รวม 15,962 ไร่ เป็นการบุกรุกพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าย่านยาว ป่าเขาวง เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม และพื้นที่นิคมสหกรณ์ รวม 7,712 ไร่ ทั้งนี้ จากที่ดินที่ถูกระบุว่ามีการครอบครองเกิดกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้มีผู้ชุมนุมพยายามเรียกร้องให้ตรวจสอบ
นายสมควร โพธิรักษ์ ประธานชมรม กำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอปลายพระยา กล่าวว่า หากมีกลุ่มผู้เรียกร้องที่ดินทำกินเข้าอาศัยในพื้นที่ อาจสร้างความไม่สงบในพื้นที่ จึงต้องผลักดันให้ออกจากพื้นที่โดยเร็ว เพื่อความสงบเรียบร้อยของคนในชุมชน ขณะที่ นายชูวงค์ มณีกุล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กลุ่มผู้เรียกร้องที่ดินทำกิน จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ชาวบ้านไม่ได้เข้ามารบกวนชุมชนแต่อย่างใด แต่มาเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ บริษัทเอกชน ที่เข้ามาทำประโยชน์สนพื้นที่ของรัฐ โดยมิชอบ เพื่อทวงคืนที่ของรัฐ ทั้งนี้ตลอดการเจรจา สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด มีการชี้หน้า และใช้ถ้อยคำรุนแรงเกิดขึ้นเป็นระยะ แต่ที่สุดสามารถตกลงกันได้ ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น. -สำนักข่าวไทย