ดีเอสไอ 5พ.ค.-ดีเอสไออายัดทรัพย์สินกว่า 50ล้านบาท คดีแชร์ลูกโซ่ธุรกิจน้ำดื่มและธุรกิจท่องเที่ยว เตือนอย่าตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อธุรกิจที่อ้างว่าลงทุนแล้วจะได้ผลตอบสูง โดยไม่มีสินค้าหรือบริการจริงหรือต้องหาสมาชิกเพิ่ม
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนผู้เสียหาย ว่า มีการโฆษณาหรือประกาศชักชวนให้มาร่วมลงทุนในธุรกิจจัดหาห้องพักให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งจองในนามบริษัท ไนซ์ เดย์ ทราเวล จำกัด และชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจน้ำดื่ม ที่มีนายปริญญา บุรัสการ และนางสาวจิรฐา ทองเหลือ เป็นกรรมการ และอ้างว่าการร่วมลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในอัตราสูง ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วสูงว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงินในประเทศ จึงมีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนจำนวนมาก แต่เมื่อลงทุนแล้วกลับไม่ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญา เบื้องต้นมีผู้มาร้องทุกข์จำนวน 142 คน มีมูลค่าความเสียหาย 180 ล้านบาท
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมานายปริญญา เข้ามอบตัวกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)ไปแล้ว ในคดีที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความว่าถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจท่องเที่ยวเช่นกัน ดีเอสไอจึงประสานกับตำรวจ ปอศ.เพื่อรับสำนวนคดีมาสืบสวนขยายผลต่อ เนื่องจากดีเอสไอรับคดีที่มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษนายปริญญาไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้แล้ว โดยนายปริญญา ยอมรับกับตำรวจ ปอศ.ว่าเป็นญาติกับนายอภิวัฒน์ อัครเดชช์ สามีของนาวาตรีหญิงแพทย์หญิงพรรณรัตน์ จันทร์มณี แพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน กรณีมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่าถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจท่องเที่ยว โดยดีเอสไอ จะขอประสานข้อมูลกับตำรวจ ปอศ.เพื่อขอข้อมูลในส่วนนี้มาขยายผลต่อ
อธิบดีดีดีเอสไอ กล่าวต่อไปว่า จากการเข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ได้อายัดบ้าน 2 หลัง หลังแรก ตั้งอยู่ถนนสุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางมด เขตจอมทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ไนซ์ เดย์ ทราเวล จำกัด และปรากฏชื่อนางสาวจิรฐา ทองเหลือ เป็นเจ้าของ หลังที่ 2 บ้านในย่านพระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง มูลค่า 30 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ 3 คัน มูลค่ารวมประมาณ 7 ล้านบาท รถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ 7 คัน มูลค่ารวมประมาณ 3 ล้านบาท รวมทั้งอายัดเงินสดจำนวน 6 ล้านบาทที่นายปริญญา นำไปมัดจำเพื่อซื้อรถแลมโบกีนี่ รวมมูลค่าการยึดอายัดทั้งสิ้นประมาณ 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้เสียหายในกรณีนี้ สามารถติดต่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่ได้ที่
สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 8 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ โทร. 0 2142 2831 หรือสายด่วน ดีเอสไอ 1202 โทรฟรีทั่วประเทศ เพื่อนำไปประกอบข้อมูลดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป
อธิบดีดีเอสไอ ยังฝากเตือนไปยังผู้ที่อาจเป็นเหยื่อในการชักจูงจากคนดัง เพื่อน หรือคนรู้จัก อ้างว่าลงทุนแล้วจะได้ผลตอบแทนสูง โดยที่การลงทุนไม่ได้มีสินค้า หรือการบริการที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งจะต้องมีการหาสมาชิกเพิ่มเติม ขอให้พึงระลึกว่าได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการแชร์ลูกโซ่แล้ว ซึ่งดีเอสไอได้บูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องปราบปรามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้มาตรการเชิงรุกและจะใช้มาตรการด้านการฟอกเงิน รวมถึงด้านภาษีเข้าดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้การกระทำผิดเรื่องดังกล่าวลดลง ซึ่งกำลังเร่งติดตามดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่อีกหลายคดี คาดว่าจะทยอยแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับเพื่อนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย