กรุงเทพฯ 3 พ.ค. – สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ ชุดใหม่กังวลมีหลายปัจจัยที่ต้องจับตาอาจส่งผลให้ตัวเลขส่งออกครึ่งปีหลังไม่สดใสเหมือนครึ่งปีแรก แนะรัฐเร่งประเมินเหตุการณ์เพื่อรับมือ ย้ำหากไม่มีผลกระทบใดส่งออกปีนี้โตร้อยละ 2.5-3.5
น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงค์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า จากตัวเลขการส่งออกเดือนมีนาคม 2560 ที่กระทรวงพาณิชย์แถลงออกมามีมูลค่า 20,888 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 9.22 ส่งผลให้ไตรมาสแรกปีนี้การส่งออกของไทยเติบโตถึงร้อยละ 4.88 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 17 ไตรมาส หรือสูงสุดในรอบ 4 ปี มีมูลค่าสูงถึง 56,456 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนและอินเดียกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นและอีกหลายตลาดด้วยกัน
น.ส.กัณญภัค กล่าวว่า สิ่งที่ สรท.กังวลช่วงครึ่งหลังปีนี้ มีหลายปัจจัยที่จะต้องตับตาอย่างใกล้ชิด เช่น ปัญหาความขัดแย้งตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี และสถานการณ์หนี้ทั่วโลกที่สูงถึงร้อยละ 315 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมทั่วโลก ดังนั้น การส่งออกครึ่งปีหลังอาจไม่สดใสเหมือนในช่วงครึ่งปีแรก โดยประเมินไว้หากไตรมาส 2 ยังโตร้อยละ 2-3 ขณะที่ไตรมาส 3-4 หากส่งออกโตร้อยละ 2 ขึ้นไป ก็น่าจะทำให้ตัวเลขการส่งออกทั้งปีน่าจะเฉลี่ยเติบโตร้อยละ 2.5-3 ขึ้นไป ทำให้ทาง สรท.ได้ปรับประมาณการเติบโตของการส่งออกไทยทั้งปีจากเดิมโตร้อยละ 2-3 เป็นร้อยละ 2.5-3.5 และอยากให้หน่วยงานภาครัฐควรมีมาตรการเตรียมรับมือจากปัจจัยผลกระทบด้านต่าง ๆ หลังจากนี้
สำหรับแนวทางการรับมือ ประกอบด้วย 1.ควรให้มีการประเมินสถานการณ์แบบเลวร้ายที่สุด 2.เร่งสร้างภาพลักษณ์ของประเทศและประชาสัมพันธ์ให้ประเทศคู่ค้าเข้าใจข้อเท็จจริงถึงสถานการณ์ภายในประเทศและเชื่อมั่นในสินค้าไทย 3.เร่งพัฒนายุทธศาสตร์สำคัญที่ซื้อขายผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และ 4.เร่งจัดทำยุทธศาสตร์เจรจาการค้าเสรีแบบทวิภาคีกับประเทศคู่ค้าหลัก รวมถึงสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งการเจาะตลาดเชิงลึกทั้งตลาดเก่าและตลาดใหม่มากขึ้น
กรณีทรัมป์จะเชิญนายกรัฐมนตรีของไทยเยือนทำเนียบขาวในเร็วๆนี้ น่าจะเป็นข่าวดีต่อไทยที่ทางสหรัฐยอมรับประเทศไทยได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ สหรัฐจะไม่ยอมรับมากนัก และเชื่อว่าสหรัฐจะผ่อนปรมเงื่อนไขและมาตรการกีดกันทางการค้าลงได้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย