กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – พรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ สภาองค์การลูกจ้าง 15 องค์กร และสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ เตรียมยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล เน้นผลักดันใน 5 ข้อที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของแรงงาน
นางสาวอัปสร กฤษณะสมิต ประธานสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ สภาองค์การลูกจ้าง 15 องค์กร จะร่วมกับสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ และศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ ยื่น 5 ข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล ข้อแรกขอให้รับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 ปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม ยกสถานะเป็นองค์กรอิสระ แก้กฎกระทรวง กรณีลูกจ้างเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ จากการทำงาน เมื่อลูกจ้างใช้สิทธิกองทุนเงินทดแทนครบตามสิทธิ์แล้ว ให้สามารถใช้สิทธิ์กองทุนประกัน สังคมต่อได้ ขอให้กระทรวงแรงงานเร่งปรับปรุงกฎหมาย และจัดตั้งกรมคุ้มครอง และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ เพื่อดูแลแรงงานให้ได้สิทธิประโยชน์ สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน ขอให้รัฐบาลคงความเป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งไม่ลดสัดส่วนการถือครองจากภาครัฐลงน้อยกว่าร้อยละ 50 และข้อสุดท้าย ขอให้แก้ไข พ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตของคนทำงาน และหากสถานประกอบการ มีกองทุนเงินสะสม ก็ขอให้แปลงสถานะเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ในหัวข้อ “แรงงานไทยใจสู้หรือเปล่า” พบว่า ผู้ใช้แรงงานร้อยละ 65.2 ทราบว่า รัฐบาลมีมติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาจาก 300 บาท เป็น 305-310 บาท ส่วนความเห็นต่อการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ร้อยละ 52.8 เห็นว่าควรปรับขึ้นมากกว่านี้
ขณะที่ร้อยละ 47.4 บอกว่า เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำที่ได้รับในแต่ละวันพอดีกับค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บออม ซึ่ง หากให้เปรียบสภาพทางการเงินกับสำนวนไทยร้อยละ 64.2 บอกว่า เปรียบได้กับ “พออยู่พอกิน” นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.4 เชื่อว่าการเข้ามาของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่มีผลกระทบ ทำให้เกิดการแย่งงาน หรือกีดกันการทำงานของแรงงานไทย และสุดท้ายเมื่อถามว่า หากมีโอกาสต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนการพัฒนาฝีมือแรงงานด้านใด เพื่อตอบโจทก์ไทยแลนด์ 4.0 ร้อยละ 36.3 อยากได้รับการพัฒนาด้านการทำอาหาร และเครื่องดื่ม รองลงมาเป็นด้านไอที คอมพิวเตอร์ รวมถึงด้านไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์
โดยรัฐบาลปัจจุบันเห็นชอบ ประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 โดยมี 7 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ที่มีค่าแรงขั้นต่ำที่สุดคือ 310 บาทต่อวัน. -สำนักข่าวไทย