กาญจนบุรี 29 เม.ย.-เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ พยัคฆ์ไพร และฉลามขาว นำโดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือกรมอุทยานฯ นายประวัฒน์ พวงทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 80 นาย เข้าตรวจสอบจุดที่ 1 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน ต.วังกระแจ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่ริมถนนสาย 323 ไทรโยค-ทองผาภูมิ ติดกับแม่น้ำแควน้อย มีผู้จัดการโรงแรม อายุ 53 ปี รับเป็นผู้จัดการโรงแรม ได้แสดงเอกสารการครอบครองที่ดิน และใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม เมื่อปี 2559 ที่ระบุว่าได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยเป็นโรงแรมประเภท 2 จำนวน 79 ห้อง พบว่ามีแพจำนวน 19 หลัง 30 ห้องพัก และยังมีเส้นทางเดินถาวร เป็นสะพานเหล็กเชื่อมต่อแพ ซึ่งพบว่าการประกอบธุรกิจแพไม่มีหนังสือรับรองการอนุญาตการท่องเที่ยว และอนุญาตของอุทยานแห่งชาติไทรโยค
จากการตรวจสอบแนวเขตบนบกยังพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ 2 ส่วน คือบริเวณชายเขาที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ และการสร้างสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักคนงานและอื่นๆ ที่สำคัญ เอกสารสิทธิที่นำมาแสดงยังไม่ครอบคลุมถึงริมแม่น้ำแควน้อย และมีการบุกรุกยึดถือครอบครองเป็นพื้นที่รวม 24ไร่ จึงได้จับกุมผู้จัดการโรงแรม ในข้อหาบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ สร้างสิ่งปลูกสร้างโดยที่พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ได้อนุญาต และหาประโยชน์ในทรัพย์สินของแผ่นดิน
ส่วนการตรวจสอบโรงแรม จุดที่ 2 ผู้จัดการได้นำเอกสารเป็น น.ส.3 เนื้อที่กว่า 400 ไร่มาแสดง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปปัญหาเรื่องการบุกรุกได้ เนื่องจากเอกสารอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ดิน แต่แพกลางแม่น้ำแควน้อยจำนวน 9 หลัง พบว่ามีทั้งส่วนที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค และอยู่ในอำนาจของกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาบุกรุกยึดถือครอบครอง และแสวงหาผลประโยชน์ นำสิ่งปลูกสร้างเข้ามาในเขตอุทยานฯโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กล่าวว่าการดำเนินการในครั้งนี้เป็นผลมาจากการบุกรุกใช้ประโยชน์ และเอาเปรียบการท่องเที่ยว ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาให้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้มีรายได้มหาศาลนับร้อยล้านบาทต่อปี แต่ไม่เคยจ่ายค่าธรรมเนียมค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ ทั้งยังใช้น้ำและทรัพยากรธรรมชาติที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ปกป้องมาด้วยชีวิต ซึ่งหากมีการจัดระเบียบให้เป็นไปตามกฎหมาย เชื่อว่าจังหวัดกาญจนบุรีที่มีอุทยานฯ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่งจะสามารถจัดเก็บเงินรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปบำรุงท้องที่ได้เป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย