กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ปตท.อนุมัติปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมัน โอนธุรกิจนำมันไปยัง PTTOR ด้าน “เทวินทร์” ยอมรับอาจโอนไม่ทัน 1 ก.ค.60 ส่วนระยะเวลา IPO ยังไม่ชี้ชัด ต้องดูทั้งภาวะตลาดประกอบ ส่วน Budget hotel คัดเลือกพันธมิตรได้ภายในกลางปีนี้
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ปตท. วันนี้ (28 เม.ย.) อนุมัติการปรับโครงสร้าง ปตท.โอนกิจการของหน่วยธุรกิจน้ำมัน รวมถึงสินทรัพย์และหนี้สินตลอดจนหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้แก่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ PTTOR และรับทราบแผนการเสนอขายหุ้นสามัญของ PTTOR ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งตามเป้าหมายเดิมนั้นจะโอนภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 ด้วยราคาซื้อขายกิจการ รวม 121,952.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การโอนกิจการต้องได้รับความเห็นชอบจากส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าขณะนี้จะผ่านการรับทราบจาก ครม.แล้วว่าการโอนกิจการไม่กระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน แต่หากการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ เห็นชอบล่าช้าก็อาจทำให้การโอนกิจการไม่ทันวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งจะต้องมีการตีมูลค่าทรัพย์ใหม่อีกรอบ
“ขณะนี้ ครม.รับทราบการปรับโครงสร้างและโอนกิจการน้ำมันให้ PTTOR แล้ว แต่ต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งอาจจะล่าช้ากว่าวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 ส่วนการกระจายหุ้น IPO นั้น นอกจากต้องปฏิบัติตามข้อบังคับด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ก็ต้องดูภาวะตลาดด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ เช่น หากทิศทางตลาดโลกเกิดมีสงครามหรือขัดแย้งกันทางการเมือง ตลาดหุ้นไม่เป็นใจ ก็อาจจะยังไม่เหมาะที่จะ IPO ดังนั้น จึงยังไม่สามารถจะกำหนด IPO ว่าจะเป็นเมื่อใด ปีนี้หรือปีหน้าระบุไม่ได้” นายเทวินทร์ กล่าว
นายเทวินทร์ กล่าวว่า การถือหุ้นของ ปตท.หลังกระจายหุ้น PTTOR จะถือหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 45 โดยบริษัทจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดย ปตท.และหน่วยงานของรัฐจะถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนแล้ว เพื่อไม่ให้ PTTOR เป็นหน่วยงานของรัฐจะได้มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจที่จะแข่งขันในอนาคต และจะมีการขายหุ้น IPO ให้แก่ผู้ถือหุ้นรายเดิมในสัดส่วนร้อยละ 5 รวมทั้งวางแผนการกระจายหุ้นให้รัดกุมให้โปร่งใส ป้องกันข้อครหาว่าดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรม
นายเทวินทร์ ยังชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นกรณีข้อกล่าวหาการติดสินบนของบนโรลรอยส์เพื่อจำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ว่า ปตท.ได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนหาข้อเท็จจริง รวบรวมหลักฐาน ผลการสืบสวน ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) ในการสืบสวนและหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดย ปตท.ได้นำข้อตกลงคุณธรรม (IP) และ COST มาปรับใช้กับโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินลงทุนสูง รวมทั้ง ปตท.ยังเป็นสมาชิกในโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริตหรือ CAC
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.กล่าวว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะช่วยสร้างความชัดเจนในการให้ PTTOR เป็นบริษัทแกน หรือFLAGSHIP ในการดำเนินธุรกิจและแสงหาโอกาสเติบโตชัดเจน และการจดทะเบียนใน ตลท.จะช่วยเสริมสร้างความชัดเจน และโปร่งใสในสายตาของสาธารณชนในการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกัน ปตท.จะมีรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายสินทรัพย์และหุ้นออกไป รวมทั้งสนับสนุนและสร้างผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอีที่พันธมิตรทางการค้าให้เติบโตทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจาก PTTOR จะมีความคล่องตัวสร้างเสริมศักยภาพการลงทุน ซึ่งปัจจุบันนี้ ปตท.มีปั๊มในประเทศกว่า 1,530 สาขาเป็นของเอสเอ็มอี ร้อยละ 83 มีร้านคาเฟ่อเมซอน 1,667 แห่ง เป็นของเอสเอ็มอีร้อยละ 90
สำหรับเป้าหมายภายใน 5 ปีข้างหน้าจะขยายกิจการมีสาขาในประเทศ 1,800 แห่ง มีสาขาต่างประเทศ 500 แห่ง ร้านคาเฟ่อเมซอนในประเทศ 2,700 แห่ง ต่างประเทศ 400 แห่ง ร้านค้าสะดวกซื้อจิฟฟี่ในต่างประเทศ 160 แห่ง
ส่วนการหาพันธมิตรเพื่อสร้างโรงแรมขนาดเล็กในปั๊มน้ำมัน ( budget hotel) คาดว่าจะประกาศรายชื่อพันธมิตรภายในครึ่งแรกของปี 2560 โดยจะคัดเลือกเพียงรายเดียวและตั้งเป้าหมายจะมี 50 แห่งใน 5 ปี โดยปีแรกหรือปี 2561 จะเปิดจำนวน 5 แห่ง. – สำนักข่าวไทย