พรรคเพื่อไทย 27 เม.ย.-รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำไม่เห็นด้วยซื้อเรือดำน้ำในสภาวะเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ แนะใช้งบไปสร้างรายได้ให้ประชาชน โต้กฎหมายพรรคการเมือง ทำนักการเมืองเป็นบอนไซ ชี้ กก.บริหารพรรคอำนาจไม่เหมือนองค์กรอิสระ
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาสนับสนุนการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือเพื่อเพิ่มศักยภาพทางกองทัพ ว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยต่อการอนุมัติงบประมาณหลายหมื่นล้านบาท ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในสภาวะย่ำแย่ และประชาชนกำลังประสบปัญหาเรื่องปากท้อง จึงไม่จำเป็นอย่างยิ่งที่นำงบประมาณประเทศมาจัดซื้อ แทนที่รัฐบาลจะนำงบประมาณไปช่วยเหลือประชาชนในการสร้างรายได้อาชีพให้เกิดความมั่นคง ไม่ควรนำงบประมาณมากระจุกตัวที่การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์
“ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลมีความพยายามผลักดันการจัดซื้อเรือดำน้ำอยู่เสมอ แต่ก็ถูกตีตก ด้วยข้อจำกัดหลายประการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำกันอย่างเปิดเผยไม่มีปิดบังเหมือนสมัยนี้ ผมคิดว่าไม่เหมาะสมที่มีการจัดซื้อเรือดำน้ำ อย่างไรก็ตาม มีความพยายามผลักดันเรื่องนี้ทั้งรัฐบาลปกติและรัฐบาลพิเศษแต่ก็มีการระงับยับยั้งมาโดยตลอด” พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าว
พล.ต.ท.วิโรจน์ ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมายลูกพรรคการเมือง มีแนวคิดกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคการเมือง เทียบเท่าองค์กรอิสระ ว่า กรรมการบริหารพรรคไม่มีอำนาจและหน้าที่เหมือนองค์กรอิสระ
“ขอให้ลดอคติกับพรรคการเมือง อย่ามองเป็นโจรหรือผู้ร้าย ไม่เช่นนั้นการเมืองก็จะถอย อย่าทำให้นักการเมืองเป็นบอนไซ เพราะการเป็นบอนไซไม่ใช่การพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะระบอบประชาธิปไตยเหมาะสมกับความเป็นอยู่ของประชาชน และอย่างไรระบอบเผด็จการจะต้องหมดไปจากโลกนี้” พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย