บาห์เรน 26 เม.ย.-วันสุดท้ายการเยือนราชอาณาจักรบาห์เรน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระราชาธิบดีฮามัด บิน อิซา อัล คอลิฟะห์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน โดยทรงชื่นชมคนไทย และมีพระราชปฏิสันถารเกี่ยวกับความร่วมมือกับไทยและภูมิภาคอาเซียน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระราชาธิบดีฮามัด บิน อิซา อัล คอลิฟะห์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ที่พระราชวังอัลชาเครีย เนื่องในโอกาสเยือนบาห์เรนอย่างเป็นทางการ และครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต โดยทรงรับสั่งว่า คนไทยอัธยาศัยดี มีความเอื้ออาทร และเป็นมิตร จึงทรงอยากกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมวิสัยทัศน์เศรษฐกิจ 2030 ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนทรงก่อตั้งขึ้น โดยมองว่า มีความคล้ายคลึงกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของไทย ที่มีเป้าหมายสร้างประเทศและประชาชนให้เข้มแข็งโดยไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง อีกทั้งยังทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงคาดหวังให้คนในโลกอยู่กันอย่างสันติ ลดความขัดแย้ง ไม่มีสงคราม และพัฒนาทุกประเทศทั่วโลกให้มีความสุขร่วมกัน
นายกรัฐมนตรียังได้เปรียบการเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนครั้งนี้ เป็นเหมือนการหารือพหุภาคีระหว่างตัวแทนกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ หรือ GCC และตัวแทนประเทศสมาชิกอาเซียนอีกด้วย โดยหลังจากนี้จะมีการทบทวนความร่วมมือเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า เร่งรัดการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน รวมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานอาเซียนประจำราชอาณาจักรบาห์เรน เพื่อทำหน้าที่ประสานกับกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับด้วย
ทั้งนี้ 2 ประเทศ เห็นพ้องจะเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือในทุกมิติ โดยที่ผ่านมามีการลงนามความร่วมมือกันแล้ว 23 ฉบับ อยู่ระหว่างทบทวน 5 ฉบับ และที่เพิ่งลงนามเพิ่มเติมอีก 3 ฉบับ โดยเฉพาะ
ด้านสาธารณสุข ที่ราชอาณาจักรบาห์เรนเตรียมจัดตั้งเมืองศูนย์กลางทางการแพทย์ หรือ Medical City จึงต้องการแพทย์สาขาต่างๆ ของไทย เพื่อรักษาผู้ป่วยและให้ความรู้ทางวิชาการ อีกทั้งที่ผ่านมามีชาวบาห์เรนเดินทางมารักษาตัวที่ไทยเป็นจำนวนมาก
ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมมัสยิดอัลฟาเต๊ะ ซึ่งถือเป็นมัสยิดกลางของราชอาณาจักรบาห์เรน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวมุสลิมเข้ามาประกอบพิธีทางศาสนา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะสนับสนุนการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิม เช่น การประกอบพิธีฮัจญ์ และพิธีละศีลอด ในเดือนรอมฎอน ที่ทำเนียบรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย