“สมชัย” แจงไม่ได้ถอดใจจากตำแหน่ง กกต.

กกต. 21 เม.ย. – “สมชัย” แจงไม่ได้ถอดใจจากตำแหน่ง กกต. เตรียมผลงานด้านภาคประชาสังคม เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 24 ปี ไว้เสนอกรรมการสรรหา หาก สนช.ยืนยันตามร่างของ กรธ.   แต่ย้ำ การรีเซ็ตกรรมการองค์กรอิสระ เป็นตรรกะประหลาด 

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง  ให้สัมภาษณ์ กรณีที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (21 เม.ย.) จะพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง    ซึ่งมีเรื่องของการดำรงตำแหน่งของ กกต.ปัจจุบัน   ว่า  ที่มีการนำเสนอข่าวว่า ตนถอดใจ และเตรียมเก็บแล้วนั้น ไม่เป็นความจริง

นายสมชัย กล่าวว่า สิ่งที่เคยพูดไปหมายความว่า ขึ้นอยู่กับ สนช.จะพิจารณา  หากยืนยันตามร่างที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)  เมื่อบังคับใช้ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา ที่จะวินิจฉัยว่า กกต.ปัจจุบัน ใครขาดคุณสมบัติบ้าง 

“ผมได้เตรียมข้อมูลการทำงานด้านภาคประชาสังคม ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 24 ปี ไว้แล้ว  ขึ้นอยู่กับว่าคณะกรรมการสรรหาจะว่าอย่างไร  ผมไม่ได้ถอดใจ  แต่คิดว่า ถ้าเรายิ่งไปคาดหวัง  และสุดท้ายเขาไม่ได้คิดไปในทางเดียวกับเรา  ก็จะทำให้เราผิดหวังเปล่าๆ” นายสมชัย กล่าว 

นายสมชัย   กล่าวว่า กรณี กรธ.ระบุว่า หากมีการรีเซ็ตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ก็อาจจะต้องมีการรีเซ็ตกรรมการองค์อิสระอื่นๆ ด้วย เป็นตรรกะที่พิกลพิการ  เพราะถ้าจะใช้ตรรกะนี้  ขอถามว่า  ถ้ามีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง รัฐมนตรีทำงานไม่เข้าขากัน จะต้องปรับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะหรือไม่  หรือ ถ้าเป็นจังหวัดหนึ่ง  ผู้ว่าฯ กับรองผู้ว่าฯ ทำงานไม่เข้าขากัน  จะเปลี่ยนผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดหรือไม่ 

“ตรรกะนี้มันไม่ควรที่จะออกจากปากของผู้ที่รู้กฎหมาย  เป็นความคิดที่แปลกประหลาด” นายสมชัย กล่าว

ต่อข้อถามว่า การถูกรีเซ็ต เนื่องจากมองว่าองค์กรอิสระมีส่วนทำให้เกิดปัญหาทางการเมือง ในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่   นายสมชัย  กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า องค์กรอิสระเป็นผู้คลี่คลายสถานการณ์  ไม่คิดว่าเป็นองค์กรที่สร้างปัญหา 

นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องผู้ตรวจการเลือกตั้ง  ทราบว่า  สนช.จะให้กกต.เข้าไปร่วมเป็นกรรมาธิการ  แต่ที่สุด สนช.จะเอาอย่างไร  กกต.ก็พร้อมจะปฏิบัติ  อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวหาว่า กกต.จังหวัดไม่เป็นกลางทางการเมืองนั้น  การที่ กกต.เลือกข้าราชการระดับสูงในจังหวัด มาเป็น กกต.จังหวัด  ก็เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนส่วนราชการภายในจังหวัดในการจัดการเลือกตั้ง  ถ้าคิดว่าไม่เป็นกลาง ก็ควรนำคนเหล่านี้ออกจากราชการ  และหากไม่เป็นกลาง กฎหมายก็กำหนดให้คนเหล่านี้ได้รับโทษสูงกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า  

“ยืนยันว่า ที่ผ่านมา กกต. ไม่เคยเสนอให้มีทั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง และ กกต.จังหวัด  แต่ถึงแม้จะมีทั้ง 2 อย่าง  ก็ไม่ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณไปมากกว่าเดิม  เพราะ กกต.จังหวัดไม่มีเงินเดือนประจำ  จะได้รับเป็นเบี้ยประชุม” นายสมชัย กล่าว        .- สำนักข่าวไทย