วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 19 เม.ย.- ก.มหาดไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เนื่องในงานใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ 6 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และ กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 และเพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรีที่ได้ทรงนำพาประเทศชาติเป็นปึกแผ่น และเจริญรุ่งเรืองยืนยาวมาเป็นเวลา 235 ปี โดยการจัดงานในครั้งนี้มี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมนึก บำรุงสาลี รองปลัดกระทรวงพลังงาน นายสมคิด วงศ์ไชยสุวรรณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเป็นประธานในพิธีสวดพระพุทธมนต์ อุทิศถวายบูรพกษัตริย์ เนื่องในงานใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ยังมี
นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยอธิบดีทุกกรม และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนข้าราชการ พนักงานของทั้ง 6 กระทรวง เข้าร่วมพิธี
สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในงานใต้ร่มพระบารมี 235 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ กำหนดจัดขึ้นที่พระอารามหลวงที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นับเป็น 1 ใน 10 พระอารามหลวง สถานที่จัดพิธีสำคัญ โดยวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญ และถือเป็นวัดประจำรัชกาลองค์พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีถึง 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงสร้างขึ้นตามราชประเพณี และโปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นพระอารามประจำรัชกาลของพระองค์ และ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงมีพระราชศรัทธาบูรณปฏิสังขรณ์เสมือนหนึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์ด้วย.-สำนักข่าวไทย