กรุงเทพฯ 17 เม.ย.- 5 วันสงกรานต์ คสช. ยึดรถแล้ว 6,544 คัน พบสถิติสูงกว่าปีที่แล้ว แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 4,982 คัน และรถยนต์ 1,562 คัน
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ภาพรวมการสัญจรในขณะนี้ยังมีความคับคั่ง เนื่องจากประชาชนเดินทางกลับจากเทศกาลสงกรานต์และท่องเที่ยว โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วนยังคงร่วมกันดูแลในทุกเส้นทาง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนเช่นเดิม ส่วนใหญ่เป็นการอำนวยการจราจร เปิดช่องทางพิเศษในการสัญจรเฉพาะพื้นที่ที่เป็นปมการคมนาคมสำคัญ การซ่อมแซมและตรวจสอบสภาพรถ การปฐมพยาบาล เป็นต้น โดยจะดูแลและส่งประชาชนกลับจนสภาพการสัญจรกลับสู่ภาวะปกติ
รองโฆษก คสช. กล่าวว่า สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 16 เมษายน 2560 มีดังนี้ รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 85,009 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถไว้ 1,013 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 46,929 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 57,719 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 581 ใบ ยึดรถยนต์ 319 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 29,304 คน
“ตลอด 5 วันที่ผ่านมา คือ ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิด ในส่วนรถจักรยานยนต์ 325,013 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ 274,309 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 6,544 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 4,982 คัน และรถยนต์ 1,562 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 210,513 คน รถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคล 166,145 คน” รองโฆษก คสช. กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า การสร้างความปลอดภัยในการสัญจรและป้องกันอุบัติเหตุตามมาตรการที่ภาครัฐได้นำมาใช้นั้นแม้ว่าในช่วงต้นของการประกาศมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยการจราจร ประชาชนจะมีความกังวลในการปฏิบัติตาม แต่ช่วง 6 วันที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนได้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ และให้ความร่วมมือตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ในการคาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อก ไม่บรรทุกเกิน
รองโฆษก คสช. กล่าวว่า ส่วนมาตราการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” นั้น ด้วยจำนวนผู้ใช้เส้นทางและปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ทำให้สถิติการยึดรถสูงกว่าเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 รวมทั้งอาจประเมินเบื้องต้นได้ว่ายังมีผู้ขับขี่รถจำนวนหนึ่งที่เชื่อมั่นในตนเองเกินไป โดยไม่ตระหนักและคำนึงถึงความเสียหายของการดื่มสุราแล้วขับขี่รถ ซึ่งสถิติการยึดรถและข้อมูลพฤติกรรมของผู้ขับขี่ดังกล่าว คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปพิจารณาปรับการดำเนินตามมาตรการสร้างความปลอดภัยการสัญจร และมาตรการดื่มไม่ขับจับยึดรถต่อไป .-สำนักข่าวไทย