นนทบุรี 14 เม.ย. – กระทรวงพาณิชย์ชี้ตลาดอิสราเอลแนวโน้มดี เผยโอกาสดีสินค้ายานยนต์ อัญมณีเครื่องประดับ อาหาร ตั้งเป้าปีนี้ส่งออกไปอิสราเอลขยายตัวร้อยละ 1-1.5
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐอิสราเอลเป็นประเทศคู่ค้าลำดับ 4 ด้านมูลค่าการส่งออกและเป็นประเทศคู่ค้าลำดับ 5 ด้านมูลค่าการนำเข้าของไทยในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 15 ประเทศ การค้ารวมไทย – อิสราเอลปี 2559 มีมูลค่า 1,068.40 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นไทยส่งออกไปอิสราเอล 675.43 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอิสราเอล 392.97 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับปี 2560 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกไทยไปยังอิสราเอลจะขยายตัวร้อยละ 1 – 1.5
สำหรับสินค้าไทยที่มีโอกาสดีในตลาดอิสราเอล ได้แก่ สินค้ายานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญอันดับ 1 ที่ไทยส่งออกไปอิสราเอล ภาพรวมอิสราเอลมีการนำเข้ารถยนต์ประมาณ 290,000 คันในปี 2559 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2558 และมีแนวโน้มจะนำเข้ารถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดสินค้าเกี่ยวเนื่องเติบโตตามไปด้วย ผู้นำเข้าสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์และยางรถยนต์ของอิสราเอลต่างเห็นว่าสินค้าของประเทศไทยมีคุณภาพดี และผู้ส่งออกไทยมีความน่าเชื่อ แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าคู่แข่งหากสินค้าไทยกลับได้รับความนิยมในตลาดนี้
ส่วนสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทยเป็นสินค้าที่ต้องการของตลาดอิสราเอลเช่นกัน สหพันธ์ตลาดกลางค้าเพชรและอัญมณีของอิสราเอลคาดการณ์ว่าภาพรวมธุรกิจการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของอิสราเอลกำลังมีภาวะที่ดีขึ้น แม้ว่าแนวโน้มความต้องการเพชรของผู้ซื้อลดลง แต่พลอยและสินค้าอัญมณีอื่น ๆ เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากสหพันธ์ฯ ระบุว่า อิสราเอลมีการนำเข้าไพลินจากไทยถึงร้อยละ 70 และนำเข้าจากประเทศศรีลังการ้อยละ 30
ขณะที่สินค้าข้าว อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ต่างมีแนวโน้มดีในอิสราเอล ชาวอิสราเอลนิยมบริโภคข้าว เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวบาสมาติ ข้าวขาวเมล็ดยาว ข้าวขาวเมล็ดกลม เป็นต้น เนื่องจากรัฐอิสราเอลไม่มีการผลิตข้าวในประเทศ จึงต้องนำเข้าเพื่อการบริโภค โดยเฉลี่ยมีปริมาณการนำเข้าข้าวปีละ 105,000 – 115,000 ตัน ตลาดนำเข้าหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย ปี 2559 อิสราเอลนำเข้าข้าวจากไทยประมาณ 49,900 ตัน รองลงมาเป็นออสเตรเลีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาข้าวของไทยสูงกว่าราคาข้าวของประเทศคู่แข่ง ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าวไทยจึงควรพัฒนาสินค้าหรือนำนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าข้าวไทย เพื่อให้สามารถครองส่วนแบ่งในตลาดไว้ได้
นอกจากนี้ สินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดอิสราเอล ได้แก่ สินค้าอาหารเสริม อาหารออร์แกนิกส์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สปา เนื่องจากมีความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม สินค้าอาหารและของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากชาวอิสราเอลนิยมเลี้ยงสุนัขและแมวมาก จากการสำรวจพบว่าอิสราเอลเป็นประเทศที่มีการเลี้ยงสุนัขและแมวมากที่สุดในโลก และสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน เนื่องจากปัจจุบันมีการขยายตัวด้านการก่อสร้างอาคารที่พัก อาคารสำนักงาน จะเห็นว่าอาคารที่อยู่อาศัยที่สูงมากกว่า 21 ชั้นถูกสร้างขึ้นจำนวนมากโดยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 70 ทั่วประเทศอิสราเอล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายขยายความร่วมมือและสร้างโอกาสทางการค้าระหว่างกัน 2 ประเทศทั้งแบบรัฐกับรัฐ เช่น การใช้ประโยชน์จากการเจรจาภายใต้กรอบ JTC ไทย – อิสราเอล สนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับเอกชน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด การสร้างเครือข่าย การเจรจาธุรกิจ ทั้งในประเทศไทยและรัฐอิสราเอล.-สำนักข่าวไทย