สายเหนือ-อีสานเริ่มติดขัดกลับสงกรานต์ เร่งเปิดช่องทางพิเศษระบายรถ

ภูมิภาค 12 เม.ย. – ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลอดครึ่งวันเช้า การจราจรทั้งสายเหนือ และอีสานเริ่มติดขัด ตำรวจจราจรเร่งระบายรถเปิดช่องทางพิเศษ 


ตลอดครึ่งวันเช้า การจราจรบนถนนสายเอเชีย ช่องทางขาขึ้นและถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก ทางหลวงหมายเลข 1117 มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ รถติดสะสมและติดหนักช่วงสะพานเดชาติวงศ์ แต่รถยังเคลื่อนตัวได้อย่างช้า ๆ สลับหยุดนิ่ง และเริ่มติดหนักตั้งแต่เชิงสะพานข้ามแม่น้ำปิงไปจนถึงบริเวณสี่แยกเขาทอง ทำให้ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครสวรรค์ ต้องเร่งระบายรถออกจากตัวเมืองปากน้ำโพ และเปิดช่องทางพิเศษอีก  2  ช่อง ป้องกันรถติดสะสมหนัก คาดว่าช่วงคืนนี้ปริมาณรถจะหนาแน่นมากกว่าช่วงกลางวัน 

บนถนนสายเอเชียช่วงรอยต่อระหว่าง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นรอยต่อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ขาขึ้นภาคเหนือ พบว่ารถเริ่มหนาแน่น แต่ยังทำความเร็วตามกันได้ 80-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง กรมทางหลวงนำป้ายเลี่ยงเส้นทางสายเอเชีย เริ่มติดหนักมาตั้งไว้เป็นระยะ และแนะนำให้ใช้ถนน 309 ผ่านตัวเมืองอ่างทอง เพื่อจะขึ้นสู่ภาคเหนือแทน ส่วนบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแก้ว รถเริ่มชะลอตัว


ภาพจากมุมสูงจะเห็นว่าบนถนนมิตรภาพบายพาส ทางเลี่ยงเมือง กิโลเมตรที่ 16 บ้านหนองกระดังงา ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่จะมุ่งหน้าขึ้นสู่ภาคอีสาน ปริมาณรถเริ่มหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนตัวได้อย่างช้า ๆ สลับหยุดนิ่ง แต่จะติดสะสมบริเวณสะพานต่างระดับ ข้ามทางรถไฟจอหอ และสี่แยกบ้านโพธิ์ เนื่องจากถนนมีลักษณะเป็นคอขวด เจ้าหน้าที่แขวงการทางนครราชสีมาเตรียมพร้อมเปิดช่องทางพิเศษ         

ส่วนบรรยากาศการเดินทางลงสู่ภาคใต้ด้วยรถไฟ นายพิชิต อัคราทิพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนช่วงสงกรานต์ กำชับเจ้าหน้าที่ป้องกันอุบัติเหตุ และลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้มากที่สุด สำหรับพื้นที่ภาคใต้ จ.สงขลา พบว่ามีการใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วแบบเรียวไทม์ นอกจากนี้ นายพิชิตยังได้โดยสารรถไฟขบวนด่วนพิเศษ ทักษิณที่ 37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก มาลงที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เพื่อมาติดตามการดำเนิน งานท่าเรือน้ำลึกสงขลา 

ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) สรุปผลสถิติรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ ซึ่งวันที่  11 เมษายน 2560 วันแรกของการรณรงค์ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 409 ครั้ง เสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บ 420 คน สาเหตุของอุบัติเหตุอันดับ 1 คือ เมาแล้วขับ ร้อยละ 45.48 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 77.80 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ 16.00-20.00 น. ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ เชียงใหม่ 18 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ อุบลราชธานี และนครราชสีมา ส่วนผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ เชียงราย 17  คน.- สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

เปิดโปง สร้างคดีอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรมหวังเงินประกัน

คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ อำพรางเพื่อหวังเงินประกัน 14 ล้านบาท ที่ จ.สกลนคร เมื่อคดีพลิกจากอุบัติเหตุ เป็นการลวงผู้เสียชีวิตไปฆ่า ซึ่งบริษัทประกันภัยพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนนำไปสู่การร้องให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีจนจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมขยายผลไปถึงเจ้าของสำนวน ความซับซ้อนของคดีนี้เป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีชี้แจงทุกเรื่องในชั้นศาล

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย กรณีสมาคมฟุตบอลฯ กับ สยามสปอร์ต ด้าน พล.ต.อ.สมยศ อดีตนายกสมาคมยืนยันพร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” ฟ้องเรียกคืน 360 ล้านบาท

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร