มั่นใจพร้อมเพย์เปิดใช้ไตรมาส 1 ปี 2560

กรุงเทพฯ 13 ธ.ค. – สมาคมธนาคารไทย เผยทดสอบระบบพร้อมเพย์ทำงานได้ดี มั่นใจเปิดใช้ในไตรมาส 1 ปี 2560 ตั้งเป้าลดปริมาณการใช้เงินสดลงร้อยละ 25 ภายใน 5 ปี ช่วยลดต้นทุนการบริหารเงินสด 100,000 ล้านบาท ของจีดีพี


ในงานสัมมนาวิชาการ “ความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจจากธุรกรรมในระบบพร้อมเพย์” นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักงานระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ปัจจุบันสมาคมธนาคารไทย อยู่ระหว่างการทดสอบระบบการทำงานออนไลน์ระบบพร้อมเพย์ของธนาคารทั้งหมด  โดยได้ทำการทดสอบการรองรับปริมาณธุรกรรมทางการเงิน เกิน 100 %   เพื่อให้สามารถรองรับการทำปริมาณธุรกรรมที่มากขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเบื้องต้นระบบพร้อมเพย์ทำงานได้ดี ไม่มีปัญหา และเชื่อว่าจะเปิดใช้พร้อมเพย์ได้อย่างเป็นทางการในไตรมาส 1 ปี 2560 อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนมาลงทะเบียนพร้อมเพย์แล้ว  18 ล้านคน จำนวน 38 ล้านบัญชี

พร้อมกันนี้ยังมองว่า หากระบบพร้อมเพย์ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ จะทำให้ปริมาณการใช้เงินสดลดลง โดยคาดว่าในปี 2560 ปริมาณการใช้เงินสดจะลดลงได้อย่างน้อย ร้อยละ 5 จากปัจจุบันที่ประชาชนใช้เงินสดร้อยละ 97 และตั้งเป้าใน 5 ปี จะลดการใช้เงินสดร้อยละ 25  และสามารถลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสดได้ประมาณ  100,000 ล้านบาทของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี ) ซึ่งปัจจุบันจีดีพีมีมูลค่า 14 ล้านล้านบาท


ทั้งนี้ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. พบว่ามีปริมาณการใช้เงินสดทั้งธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 รวม 1.53 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นธนบัตร 1.47 ล้านล้านบาท และเหรียญกษาปณ์ 63,000 ล้านบาท

นายยศ กล่าวว่าสำหรับความกังวลของประชาชนถึงความเสี่ยงในการใช้พร้อมเพย์นั้น เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยมีการดูแลเรื่องดังกล่าว และระบบเองมีการป้องกันความเสี่ยงในตัวอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน แต่ในส่วนของประชาชนเอง ต้องระมัดระวัง และดูแลความปลอดภัยด้วยตัวเอง ด้วยการตั้งรหัสที่ไม่ง่ายเกินไป  ห้ามบอกรหัสส่วนตัวกับบุคคลอื่น และ อย่านำโทรศัพท์มือถือฝากไว้กับบุคคลอื่น

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ( องค์การมหาชน) หรือ เอ็ดด้า กล่าวว่า คาดว่าการทำธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ในประเทศไทยในปี 2560 จะอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้อยู่ที่ 2.2.ล้านล้านบาท ซึ่งแม้ปริมาณธุรกรรมจะเพิ่มขึ้น แต่หากเทียบกับประเทศสิงคโปร์ยังถือว่าน้อยกว่า โดยเฉพาะปริมาณธุรกรรมที่มีวงเงินสูง เพราะผู้บริโภคยังไม่มั่นใจในระบบความปลอดภัยเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่าระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยจะมีความปลอดภัยสูงก็ตาม ซึ่งฝากผู้บริโภคอย่ากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกส์มากเกินไป โดยแนะนำให้ประชาชนเริ่มใช้บริการทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์จากธุรกรรมในวงเงินต่ำเพื่อให้คุ้นชินก่อน และ ประชาชนต้องตระหนักและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ซึ่งในอนาคตรัฐบาลกำลังจะมีการอัพเกรดบัตรประจำตัวประชาชนโดยจะมีการใส่เทคโนโลยีเพื่อป้องกันความปลอดภัยมากขึ้น.- สำนักข่าวไทย


 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน