ชทพ.ปูพรม 18 โซนพบ ปชช.โค้งสุดท้าย

สุพรรณบุรี 11 พ.ค.-“สรชัด” มั่นใจ ชทพ.ในสุพรรณบุรีไม่โดนเจาะ พรุ่งนี้เดินปูพรม 18 โซน ย้ำเบอร์คน เบอร์พรรค เมินคู่แข่งปั่นกระแส ดิสเครดิต ชี้ “บรรหาร” สอนยึดผลงาน-ความคิดพื้นฐาน ทำเพื่ออนาคตอย่างยั่งยืน


นายสรชัด สุจิตต์ ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 1 (อ.เมืองสุพรรณบุรี) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์เลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้ายในพื้นที่เขต 1 ว่า ถึงเวลานี้ยังเชื่อว่าในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เราต้องไม่พลาด โดยเฉพาะการเจาะลงพื้นที่ เพราะพรรคอื่นมาทางออนไลน์ พลังของพวกเราที่ทุกคนในพื้นที่ได้สัมผัส เรายังได้รับความนิยมใน จ.สุพรรณบุรี อย่างไรก็ตาม เมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้คะแนนมาเป็นลำดับ 2

“หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ผู้สมัคร ส.ส.คนนั้นได้มาช่วยผมทำงาน ผมเปิดกว้างให้คนสุพรรณบุรีที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง ไม่เคยปิดกั้น ทั้งยังดึงเด็กและเยาวชนใน จ.สุพรรณบุรี มาทำงาน เพื่อปลูกฝังให้เขารู้ว่า สุพรรณบุรี คือบ้านของเรา ทำให้ได้เห็นว่า หลายคนที่ร่วมทำงานกับพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งครั้งก่อน ก็ได้เข้ามาทำงานร่วมกับเราในพรรค ชทพ. ได้ทำงานร่วมกัน เด็กๆ เขาก็มีความฝันของเขาที่จะทำงานการเมือง” นายสรชัด กล่าว


นายสรชัด กล่าวว่า กระแสก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บางคนเกิดการตื่นตระหนก แต่สำหรับตนแล้วยังเชื่อมั่นเรื่องการทำงานในพื้นที่อยู่เหมือนเดิม ซึ่งเราทำงานใกล้ชิดพื้นที่มาตลอด ตั้งแต่พรรคชาติไทย มาจนถึงพรรคชทพ. และผู้ใหญ่ในพรรคได้สอนมาตลอดว่า ถึงอย่างไรเราก็ต้องไม่ประมาท อยู่ในพื้นที่และเข้าถึงประชาชนให้ได้ตลอดเวลา จึงเชื่อมั่นว่าเราจะได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างชัดเจน ได้คะแนนหนาแน่น แต่สำหรับกระแสโซเชียลที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ เพราะเกิดขึ้นมาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 62 ในครั้งนั้นหลายคนก็ตกใจว่าทำไมคะแนนของพรรคอนาคตใหม่กระแสดีขนาดนั้น ขอบอกว่าเราปรับตัวการทำงานมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาปรับ เราทำงานกับเยาวชนมากขึ้น สื่อสารกันมากขึ้น เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสทำงาน เพื่อให้เข้าถึงกันได้มากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อถามย้ำว่า คนในพื้นที่ยังมองผลงานในพื้นที่เป็นหลักมากกว่ากระแสใช่หรือไม่ นายสรชัด กล่าวว่า คนในสุพรรณบุรีส่วนใหญ่ทราบดี โดยเฉพาะถ้าดูจากเฟซบุ๊กของตนจะพบว่าไม่ค่อยมีเยาวชนเข้ามาก่อกวน เชื่อว่าเด็ก ๆ หลายคนทราบดีว่าตนทำงานและมีผลงานอย่างไรในพื้นที่ สำหรับวันพรุ่งนี้(12 พ.ค.) จะปรับกลยุทธ์หาเสียงโค้งสุดท้ายจากเมื่อก่อนที่นายบรรหาร และสมาชิกพรรคจะเดินหาเสียงในตลาดจ.สุพรรณบุรี แต่ครั้งนี้นายวราวุธมีนโยบายว่าจะเดินหาเสียงอย่างไรไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องการจราจร

“การหาเสียงพรุ่งนี้จะแบ่งสายกันเดิน 18 โซน ปูพรมไปพร้อมกัน โดยจะเริ่มต้นจากสวนเฉลิมภัทรราชินี (หอคอยบรรหารแจ่มใส) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะกลางเมืองสุพรรณบุรี และกระจายออกเป็น 18 โซน เพราะออกเดินรณรงค์หาเสียงพร้อม ๆ กันเพื่อย้ำเบอร์และจะเน้นย้ำการสื่อสารให้พี่น้องประชาชนชัดเจนเรื่องที่ต้องกาบัตรสองใบ โดยจะมีทั้งผู้ใหญ่ของพรรคชทพ.และมีนิวเจนเนอเรชั่น ซึ่งคนรุ่นใหม่หน้าใหม่ในเมือง เป็นภาคธุรกิจสร้างเศรษฐกิจในกับจ.สุพรรณบุรี อาทิ อุตสาหกรรมอะไหล่รถยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร อุตสาหกรรมภาคบริการ และยังมีเด็กรุ่นใหม่ที่ทำพืชสมุนไพร เหล่านี้จะเป็นนิวเจนฯ ของพรรค​ซึ่งผมพยายามสร้างเป็นเครือข่าย” นายสรชัด กล่าว


 นายสรชัด กล่าวว่า พรุ่งนี้พรรคเราจะมีทั้งคนรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ ร่วมเดินรณรงค์หาเสียงไปด้วยกัน เราลงพื้นที่ปฏิบัติงานกันจริง ทำงานอยู่ข้างหลัง แล้วไม่ได้นำมาเผยแพร่ทางโซเชียล เรามีความชัดเจนในการทำงาน ซึ่ง “นิวเจนฯ”หรือ “ยังเจนฯ” ของพรรคทำงานกับคนรุ่นใหญ่ของพรรค เพื่อช่วยกันกำหนดทิศทางของจ.สุพรรณบุรี เป็นการทำงานร่วมกัน รับฟังจากทุก ๆ คน แล้วนำมาขับเคลื่อนแต่ละบทบาทหน้าที่ ตามนโยบายของพรรคชทพ.ว่าเรารับฟังและทำจริง โดยอาศัยประสบการณ์และพื้นฐานของรุ่นใหญ่ ประกอบกับองค์ความรู้และนวัตกรรมจากคนรุ่นใหม่ นำมาปรับเปลี่ยนขับเคลื่อน เดินร่วมกันต่อไปข้างหน้า

เมื่อถามว่าแสดงว่ากระแสนิวโหวตเตอร์ครั้งนี้ไม่แรงมากใช่หรือไม่ นายสรชัด กล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ไม่แรงเท่าไหร่ ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. ไม่ได้สัมผัสเราในพื้นที่ และนิวโหวตเตอร์บางคนที่อยู่ในจ.สุพรรณบุรี เขาจะอยู่ในโลกโซเชียลและไม่ได้สัมผัสเราก็มี มีอยู่ทุกส่วน แต่ไม่ใช่ว่านิวโหวตเตอร์ทั้งหมดจะไปทางนั้น ตนยืนยันว่าจากการประเมินสถานการณ์เลือกตั้งจนถึงเวลานี้ ไม่มีอะไรทำให้หวั่นไหว เมื่อถามย้ำว่าคิดว่าจะสามารถดึงกลุ่มนิวโหวตเตอร์บางส่วนกลับมาได้หรือไม่

“ผมมองว่า บางคนเขาตัดสินใจแล้ว แล้วจะให้เราไปเปลี่ยนเขาให้เขาเปลี่ยนการตัดสินใจภายใน 1-2 วัน คงไม่ได้ แต่ในอนาคต ผมมองว่าน้องๆคงกลับมา เพราะเราทำผลงาน เราไม่ได้พูดอย่างเดียว อีกทั้งที่ผ่านมา ผมมีทั้งวิเคราะห์จุดอ่อนของตัวเอง จุดแข็งของคู่แข่ง พยายามปรับปรุงตัวเองมาตลอด และครั้งนี้มั่นใจว่าไม่เสียแชมป์แน่นอน ส่วนที่มีผลโพลออกมาว่าเขตนี้เป็นจุดเสี่ยง ที่ชทพ.อาจเพลี่ยงพล้ำได้นั้น ก็เอาเลย เดี๋ยววันที่ 14 พ.ค.รู้กัน” นายสรชัด กล่าว

ส่วนที่ในช่วงโค้งสุดท้ายมักจะมีพรรคคู่แข่งพยายามดิสเครดิตเพื่อแย่งชิงคะแนนเสียง นายสรชัด กล่าวว่า อยู่ที่จริยธรรมของคน ถ้าจะเอาชนะกันด้วยทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชนะ ก็ถือเป็นจริยธรรมการทำงานของแต่ละคน แต่สำหรับชทพ.เราทำงานด้วยผลงาน และความคิดพื้นฐานที่ทำเพื่ออนาคตอย่างยั่งยืน ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่นายบรรหาร สอนพวกเรามา.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย